รวม 20 เมนูต้มยอดฮิต สูตรเด็ด พร้อมวิธีทำแบบละเอียด
การทำอาหารต้มถือเป็นวิธีการที่เรียบง่ายและเต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ เมนูต้มเหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่มีรสชาติกลมกล่อม สบายท้อง หรืออาหารที่เผ็ดร้อนสำหรับคนรักรสจัด ในบทความนี้ เราได้รวบรวม 20 เมนูต้มที่ได้รับความนิยม พร้อมส่วนผสมและวิธีทำที่คุณสามารถทำเองได้ที่บ้าน
เมนูต้มเป็นอาหารที่หลากหลายและปรับได้ตามความชอบ ไม่ว่าจะเป็นเมนูต้มจืดที่อ่อนโยนต่อกระเพาะ หรือต้มยำที่จัดจ้านถูกใจคนไทย สูตรแต่ละอย่างที่เรารวบรวมมานั้น ได้คัดสรรส่วนผสมที่หาง่ายและขั้นตอนการทำที่ไม่ยุ่งยาก เหมาะสำหรับคนที่เริ่มต้นทำอาหารและต้องการลองทำเมนูใหม่ ๆ
บทความนี้ไม่ได้แค่ช่วยให้คุณได้เมนูต้มอร่อย ๆ แต่ยังช่วยเพิ่มความสนุกในการทำอาหารด้วยการเตรียมส่วนผสมง่าย ๆ และทำตามวิธีที่เราแนะนำอย่างละเอียด คุณจะได้ทั้งความสุขในการทำและความอิ่มอร่อยไปพร้อม ๆ กัน
เนื้อต้มกะทิ
เนื้อต้มกะทิเป็นเมนูอาหารไทยที่เต็มไปด้วยความหอมมันและรสชาติกลมกล่อมของกะทิผสมกับเนื้อนุ่มลิ้น ถือเป็นเมนูโบราณที่ยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน เพราะขั้นตอนการทำไม่ซับซ้อน ใช้วัตถุดิบไม่กี่อย่าง แต่กลับให้รสชาติที่ลึกซึ้ง
ส่วนผสมเนื้อต้มกะทิ
- เนื้อวัว (ส่วนเนื้อสันหรือเนื้อติดมันเล็กน้อย) 500 กรัม
- กะทิสด 3 ถ้วยตวง
- น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง
- ตะไคร้ 2 ต้น (ทุบพอแตก)
- ใบมะกรูด 5 ใบ (ฉีก)
- หอมแดง 5 หัว (บุบ)
- ข่าอ่อนหั่นแว่น 5 ชิ้น
- พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา (บดหยาบ)
- เกลือ 1 ช้อนชา
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
- ผักชีฝรั่งซอยสำหรับโรยหน้า
วิธีทำเนื้อต้มกะทิ
- เตรียมเนื้อวัว: ล้างเนื้อวัวให้สะอาดแล้วหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ หากต้องการความนุ่มพิเศษ ให้หมักเนื้อกับเกลือเล็กน้อยแล้วพักไว้ประมาณ 15 นาที
- ต้มเครื่องปรุงพื้นฐาน: ตั้งหม้อใส่กะทิ 2 ถ้วยตวงและน้ำเปล่า ใช้ไฟกลาง ใส่ตะไคร้ ข่า หอมแดง และพริกไทยเม็ดลงไป ต้มจนเริ่มมีกลิ่นหอม
- ใส่เนื้อวัว: ใส่เนื้อวัวที่เตรียมไว้ลงในหม้อ ต้มด้วยไฟกลางจนเนื้อเริ่มเปื่อยนุ่ม (ประมาณ 30 นาที) หากต้องการให้เนื้อนุ่มมากขึ้นสามารถลดไฟลงและเคี่ยวนานขึ้นได้
- ปรุงรส: ใส่น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และเกลือ คนให้เข้ากัน จากนั้นเติมกะทิที่เหลืออีก 1 ถ้วยตวง ต้มต่อด้วยไฟอ่อนจนเดือดเบาๆ
- ใส่ใบมะกรูด: ใส่ใบมะกรูดฉีกลงไป คนเบาๆ เพื่อให้กลิ่นหอมกระจายทั่ว ต้มต่ออีก 5 นาที
- จัดเสิร์ฟ: ตักเนื้อต้มกะทิใส่ชาม โรยหน้าด้วยผักชีฝรั่ง เสิร์ฟคู่กับข้าวสวยร้อนๆ
ต้มกระดูกหมูใบชะมวง
เมนูต้มกระดูกหมูใบชะมวงเป็นอาหารพื้นบ้านของไทยที่มีรสชาติเอกลักษณ์ ผสมผสานความเปรี้ยวของใบชะมวงกับความหวานหอมจากกระดูกหมูได้อย่างลงตัว เมนูนี้ไม่เพียงแต่มีรสชาติที่กลมกล่อม แต่ยังเต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการจากสมุนไพรที่ดีต่อสุขภาพ เหมาะสำหรับทุกมื้ออาหาร โดยเฉพาะในวันที่ต้องการอาหารที่อิ่มอร่อยและอบอุ่นใจ
ส่วนผสมต้มกระดูกหมูใบชะมวง
- กระดูกหมูอ่อน 500 กรัม
- ใบชะมวง 1 ถ้วย (ล้างสะอาดและฉีกเป็นชิ้น)
- หอมแดง 4 หัว (ทุบพอแตก)
- พริกขี้หนูสด 5-10 เม็ด (ตามชอบ)
- น้ำเปล่า 1.5 ลิตร
- น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
- ผักชีสำหรับโรยหน้า (ไม่บังคับ)
วิธีทำต้มกระดูกหมูใบชะมวง
- เตรียมวัตถุดิบ: ล้างกระดูกหมูให้สะอาด นำใบชะมวงมาล้างและฉีกเป็นชิ้น หอมแดงทุบพอแตก และเตรียมน้ำมะขามเปียกไว้
- ต้มกระดูกหมู: ตั้งหม้อใส่น้ำเปล่า ใช้ไฟกลาง ใส่กระดูกหมูลงไปต้ม พร้อมหอมแดงและเกลือป่น ต้มจนกระดูกหมูนุ่ม (ประมาณ 30 นาที) คอยช้อนฟองออกเพื่อให้น้ำซุปใส
- ใส่ใบชะมวงและปรุงรส: ใส่ใบชะมวงลงในหม้อ คนให้เข้ากัน ตามด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ ชิมรสและปรับตามชอบ
- ใส่พริกขี้หนู: ใส่พริกขี้หนูสดตามชอบ คนให้เข้ากัน และต้มต่ออีก 10 นาที จนใบชะมวงเปื่อยและน้ำซุปมีกลิ่นหอม
- จัดเสิร์ฟ: ตักต้มกระดูกหมูใบชะมวงใส่ชาม โรยหน้าด้วยผักชี เสิร์ฟร้อนๆ พร้อมข้าวสวยร้อนๆ
ต้มข่าไก่
ต้มข่าไก่เป็นหนึ่งในเมนูอาหารไทยที่ได้รับความนิยมทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ด้วยรสชาติที่หอมกลมกล่อมจากกะทิและสมุนไพร ทำให้เมนูนี้เป็นที่โปรดปรานในทุกครัวเรือน ไม่ว่าจะเป็นมื้อกลางวันหรือมื้อเย็น ต้มข่าไก่ก็ตอบโจทย์ทุกโอกาส
ส่วนผสมต้มข่าไก่
- เนื้อไก่หั่นชิ้นพอดีคำ 300 กรัม
- กะทิ 500 มิลลิลิตร
- น้ำเปล่า 200 มิลลิลิตร
- ข่าอ่อนหั่นแว่น 5-6 ชิ้น
- ตะไคร้หั่นท่อน 2 ต้น
- ใบมะกรูดฉีก 3-4 ใบ
- เห็ดฟางหรือเห็ดอื่นๆ ตามชอบ 100 กรัม
- พริกขี้หนูสวนบุบ 5-7 เม็ด
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- ผักชีสำหรับโรยหน้า
วิธีทำต้มข่าไก่
- เตรียมวัตถุดิบ: ล้างและหั่นเนื้อไก่ให้เป็นชิ้นพอดีคำ ล้างเห็ดให้สะอาดและหั่นครึ่ง เตรียมข่า ตะไคร้ และใบมะกรูด
- ต้มน้ำและกะทิ: ตั้งหม้อ ใส่น้ำเปล่าและกะทิลงไป ใช้ไฟกลาง คนเบาๆ เพื่อไม่ให้กะทิแตกมัน
- ใส่สมุนไพร: ใส่ข่า ตะไคร้ และใบมะกรูดลงในหม้อ ต้มจนมีกลิ่นหอม
- ใส่ไก่และเห็ด: ใส่เนื้อไก่และเห็ดลงในหม้อ คนให้เข้ากัน ต้มจนเนื้อไก่สุก
- ปรุงรส: ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลทราย คนให้เข้ากัน ชิมรสและปรับตามชอบ
- เสิร์ฟ: ตักต้มข่าไก่ใส่ชาม โรยหน้าด้วยผักชี เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ
กระดูกอ่อนหมูตุ๋น
กระดูกอ่อนหมูตุ๋นเป็นเมนูที่หลายคนชื่นชอบ เพราะเนื้อหมูที่นุ่มละลายในปาก ผสมกับน้ำซุปที่หอมหวาน ทำให้จานนี้เหมาะสำหรับทุกมื้ออาหาร ไม่ว่าจะเป็นมื้อเที่ยงหรือมื้อเย็น คุณสามารถทำเมนูนี้ได้ง่ายๆ ที่บ้าน ด้วยวัตถุดิบที่หาได้ทั่วไปในครัวเรือน
ส่วนผสมกระดูกอ่อนหมูตุ๋น
- กระดูกอ่อนหมู 500 กรัม
- กระเทียมทุบ 5 กลีบ
- พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา
- รากผักชี 2 ราก
- หอมหัวใหญ่ 1 หัว (ผ่าครึ่ง)
- ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
- ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1 ช้อนชา
- น้ำตาลกรวด 1 ช้อนชา
- เกลือ 1 ช้อนชา
- น้ำสะอาด 1.5 ลิตร
- ต้นหอมซอยสำหรับโรยหน้า
- ผักชีสำหรับตกแต่ง
วิธีทำกระดูกอ่อนหมูตุ๋น
- เตรียมวัตถุดิบ: ล้างกระดูกอ่อนหมูให้สะอาด จากนั้นนำกระดูกอ่อนลงลวกในน้ำเดือดประมาณ 3 นาที เพื่อลดกลิ่นคาว แล้วนำขึ้นพักไว้
- ต้มน้ำซุป: ตั้งหม้อใส่น้ำสะอาด ใช้ไฟกลาง ใส่กระเทียม พริกไทยเม็ด รากผักชี และหอมหัวใหญ่ลงไป รอจนเดือด
- ใส่กระดูกอ่อนหมู: ใส่กระดูกอ่อนหมูที่ลวกไว้ลงในหม้อ ต้มด้วยไฟอ่อนและคอยช้อนฟองออกเพื่อให้น้ำซุปใส
- ปรุงรส: ใส่ซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม น้ำปลา น้ำตาลกรวด และเกลือ ชิมรสชาติและปรับตามความชอบ
- ตุ๋นจนกระดูกนุ่ม: ปิดฝาหม้อและตุ๋นด้วยไฟอ่อนประมาณ 2 ชั่วโมง หรือจนกระดูกอ่อนหมูนุ่มละลายในปาก
- เสิร์ฟ: ตักกระดูกอ่อนหมูตุ๋นใส่ชาม โรยหน้าด้วยต้นหอมซอยและผักชี เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ หรือขนมปัง
ต้มจืดฟักไก่
ต้มจืดฟักไก่เป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารไทยที่อยู่คู่ครัวเรือนมาช้านาน ด้วยความเรียบง่ายของขั้นตอนการทำและรสชาติที่กลมกล่อม เป็นซุปใสที่เหมาะกับทุกมื้ออาหาร ไม่ว่าจะเป็นมื้อกลางวันหรือมื้อเย็น เมนูนี้ยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่อยากได้อาหารเบา ๆ แต่ยังอิ่มท้อง
ส่วนผสมต้มจืดฟักไก่
- ฟักหั่นชิ้นพอดีคำ 2 ถ้วย
- เนื้อไก่ (ส่วนสะโพกหรืออก) หั่นชิ้นพอดีคำ 300 กรัม
- กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- รากผักชีทุบ 2 ราก
- พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา
- น้ำเปล่า 1.5 ลิตร
- ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- ต้นหอมซอยสำหรับโรยหน้า
- ผักชีสำหรับโรยหน้า
วิธีทำต้มจืดฟักไก่
- เตรียมวัตถุดิบ: ล้างฟักและเนื้อไก่ให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ เตรียมกระเทียม รากผักชี และพริกไทยเม็ดให้พร้อม
- ต้มน้ำซุป: ตั้งหม้อใส่น้ำเปล่า ใช้ไฟกลาง ใส่กระเทียม รากผักชี และพริกไทยเม็ดทุบลงไป ต้มจนเริ่มมีกลิ่นหอม
- ใส่เนื้อไก่: ใส่เนื้อไก่ลงไปในหม้อ ต้มจนไก่เริ่มสุก จากนั้นช้อนฟองออกเพื่อให้น้ำซุปใส
- ใส่ฟัก: ใส่ฟักลงไปในหม้อ ต้มจนฟักนุ่ม ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที
- ปรุงรส: ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและเกลือ ชิมรสตามชอบ
- จัดเสิร์ฟ: ตักต้มจืดใส่ชาม โรยหน้าด้วยต้นหอมและผักชี เสิร์ฟร้อนพร้อมข้าวสวย
หมูสามชั้นต้มผักกาดดอง
หมูสามชั้นต้มผักกาดดองเป็นหนึ่งในเมนูพื้นบ้านที่หลายคนคุ้นเคย ด้วยรสชาติที่กลมกล่อมจากความเปรี้ยวของผักกาดดองและความนุ่มของหมูสามชั้น เมนูนี้เหมาะกับการรับประทานคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ หรือเป็นอาหารจานเดียวสำหรับมื้อพิเศษ
ส่วนผสมหมูสามชั้นต้มผักกาดดอง
- หมูสามชั้น 500 กรัม (หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ)
- ผักกาดดอง 300 กรัม (ล้างน้ำเพื่อลดความเค็มและหั่นเป็นชิ้น)
- กระเทียม 5 กลีบ (ทุบให้แตก)
- พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา (บุบพอแตก)
- น้ำเปล่า 1.5 ลิตร
- ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
- ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- เกลือเล็กน้อย (ตามชอบ)
- ต้นหอมซอยสำหรับโรยหน้า
วิธีทำหมูสามชั้นต้มผักกาดดอง
- เตรียมวัตถุดิบ: ล้างผักกาดดองให้สะอาดเพื่อลดความเค็ม แล้วหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ จากนั้นหั่นหมูสามชั้นและเตรียมกระเทียมและพริกไทยเม็ด
- ต้มหมู: ใส่น้ำเปล่าลงในหม้อ ใช้ไฟกลาง ใส่กระเทียมและพริกไทยเม็ด ต้มจนน้ำเริ่มเดือด จากนั้นใส่หมูสามชั้นลงไป ต้มจนหมูเริ่มนุ่ม
- ใส่ผักกาดดอง: ใส่ผักกาดดองที่เตรียมไว้ลงในหม้อ คนให้เข้ากัน เติมซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส และน้ำตาลทราย ชิมรสและปรุงเพิ่มตามชอบ
- เคี่ยว: ลดไฟลงเป็นไฟอ่อน แล้วเคี่ยวต่อประมาณ 30 นาที เพื่อให้หมูและผักกาดดองนุ่มและซึมซับรสชาติ
- เสิร์ฟ: ตักใส่ชาม โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย พร้อมเสิร์ฟกับข้าวสวยร้อน ๆ
ต้มยำไก่น้ำใสใส่เห็ดฟาง
ต้มยำไก่น้ำใส ใส่เห็ดฟาง เป็นหนึ่งในเมนูไทยที่โด่งดังและเป็นที่นิยมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ความโดดเด่นของเมนูนี้อยู่ที่น้ำซุปใสที่เต็มไปด้วยกลิ่นหอมจากสมุนไพรไทย เช่น ตะไคร้ ใบมะกรูด และข่า ผสมผสานกับรสชาติจัดจ้านที่มาพร้อมความเผ็ดร้อนของพริกและความเปรี้ยวของน้ำมะนาว
ส่วนผสมต้มยำไก่น้ำใส ใส่เห็ดฟาง
- เนื้อไก่ส่วนอกหรือสะโพก 300 กรัม (หั่นชิ้นพอดีคำ)
- เห็ดฟาง 200 กรัม (ล้างสะอาดและผ่าครึ่ง)
- น้ำเปล่า 4 ถ้วย
- ตะไคร้ 2 ต้น (ทุบและหั่นท่อน)
- ข่า 5 แว่น
- ใบมะกรูด 5 ใบ (ฉีกเอาแกนกลางออก)
- พริกขี้หนูสวน 10 เม็ด (ทุบพอแตก)
- น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- ผักชีสำหรับโรยหน้า
วิธีทำต้มยำไก่น้ำใส ใส่เห็ดฟาง
- เตรียมวัตถุดิบ: ล้างเนื้อไก่และเห็ดฟางให้สะอาด หั่นเนื้อไก่เป็นชิ้นพอดีคำ เตรียมสมุนไพรทั้งหมด เช่น ตะไคร้ ใบมะกรูด และข่า
- ต้มน้ำซุป: ใส่น้ำเปล่าในหม้อ ตั้งไฟกลางจนเดือด ใส่ตะไคร้ ข่า และใบมะกรูดลงไป ต้มประมาณ 5 นาทีจนมีกลิ่นหอม
- ใส่ไก่และเห็ดฟาง: ใส่เนื้อไก่ลงในหม้อ ต้มต่อจนเนื้อไก่สุกประมาณ 5-7 นาที จากนั้นใส่เห็ดฟางตามลงไป
- ปรุงรส: ปรุงรสด้วยน้ำปลาและเกลือ คนให้เข้ากัน ลดไฟลงเป็นไฟอ่อน
- เพิ่มรสจัดจ้าน: ใส่พริกขี้หนูที่ทุบไว้ และปิดไฟ จากนั้นใส่น้ำมะนาวเพื่อความเปรี้ยวสดชื่น
- จัดจานและเสิร์ฟ: ตักต้มยำไก่น้ำใสใส่ชาม โรยหน้าด้วยผักชี เสิร์ฟร้อนๆ พร้อมข้าวสวย
ต้มแซ่บหมูสับ
ถ้าคุณเป็นคนที่ชื่นชอบอาหารรสจัดจ้านและน้ำซุปหอมกรุ่นจากสมุนไพรไทย ต้มแซ่บหมูสับเป็นเมนูที่คุณไม่ควรพลาด เมนูนี้มีจุดเด่นที่น้ำซุปที่แซ่บถึงใจ และส่วนผสมที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มผักหรือปรับระดับความเผ็ด
ส่วนผสมต้มแซ่บหมูสับ
- หมูสับ 200 กรัม
- น้ำซุปไก่ 3 ถ้วย
- ข่าหั่นแว่น 5 แว่น
- ตะไคร้หั่นท่อน 2 ต้น
- ใบมะกรูดฉีก 4 ใบ
- หอมแดง 3 หัว (ปอกเปลือก)
- พริกขี้หนูสวนบุบ 10 เม็ด (หรือปรับตามความเผ็ดที่ชอบ)
- เห็ดฟาง 100 กรัม (ล้างสะอาดและหั่นครึ่ง)
- มะเขือเทศสีดาหั่นครึ่ง 2 ลูก
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
- ผักชีฝรั่งซอย 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำต้มแซ่บหมูสับ
- เตรียมวัตถุดิบ: ล้างและเตรียมส่วนผสมทั้งหมดให้พร้อม เช่น ซอยผักชีฝรั่ง หั่นมะเขือเทศ และบุบพริกขี้หนู
- ต้มน้ำซุป: นำหม้อใส่น้ำซุปไก่ตั้งไฟกลาง ใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และหอมแดงลงไป ต้มจนมีกลิ่นหอม
- ใส่หมูสับและเห็ด: ใส่หมูสับลงในน้ำซุป ใช้ทัพพีคนให้กระจายตัว จากนั้นใส่เห็ดฟางและมะเขือเทศลงไป
- ปรุงรส: ปรุงรสด้วยน้ำปลา ชิมรสชาติให้กลมกล่อม จากนั้นใส่พริกขี้หนูที่บุบไว้
- ต้มจนสุก: ปล่อยให้ทุกอย่างเดือดและสุกดี ปิดไฟ ใส่น้ำมะนาวและผักชีฝรั่งซอย คนให้เข้ากัน
- เสิร์ฟ: ตักต้มแซ่บหมูสับใส่ชาม เสิร์ฟร้อนๆ พร้อมข้าวสวยหรือทานเปล่าๆ ก็ได้
แกงจืดหมูสับ
แกงจืดหมูสับเป็นเมนูที่หลายบ้านเลือกทำเป็นอาหารประจำ เพราะความง่ายในการเตรียมและรสชาติที่กลมกล่อม วัตถุดิบหลักอย่างหมูสับและผักหลากหลายชนิดยังช่วยเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ เหมาะกับทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ
ส่วนผสมแกงจืดหมูสับ
- หมูสับ 200 กรัม
- น้ำเปล่า 1 ลิตร
- เต้าหู้ไข่ 2 หลอด (หั่นชิ้นพอดีคำ)
- ผักกาดขาว 1 หัว (หั่นชิ้นใหญ่)
- แครอท 1 หัว (หั่นแว่น)
- หัวไชเท้า 1/2 หัว (หั่นแว่น)
- คื่นฉ่าย 2 ต้น (หั่นท่อน)
- กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- พริกไทยป่น (ตามชอบ)
- น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
- ผักชีสำหรับโรยหน้า
วิธีทำแกงจืดหมูสับ
- เตรียมวัตถุดิบ: นำผักทั้งหมดล้างให้สะอาด หั่นเต้าหู้ไข่ ผักกาดขาว แครอท หัวไชเท้า และคื่นฉ่ายตามที่ระบุไว้ พักไว้
- ผัดกระเทียม: ตั้งหม้อบนไฟกลาง ใส่น้ำมันพืชและกระเทียมสับ ผัดจนมีกลิ่นหอม
- ต้มน้ำซุป: เติมน้ำเปล่าลงในหม้อ รอจนเดือด จากนั้นใส่หมูสับลงไป ใช้ช้อนคนให้หมูสับกระจายตัว และเคี่ยวจนหมูสุก
- ใส่ผักและเต้าหู้ไข่: ใส่หัวไชเท้าและแครอทลงไปเคี่ยวประมาณ 5 นาที ตามด้วยผักกาดขาว เต้าหู้ไข่ และคื่นฉ่าย
- ปรุงรส: ใส่ซีอิ๊วขาว เกลือ และพริกไทยป่น ชิมรสตามชอบ ต้มต่ออีก 5 นาทีจนทุกอย่างสุก
- จัดเสิร์ฟ: ตักแกงจืดใส่ชาม โรยหน้าด้วยผักชี พร้อมเสิร์ฟคู่กับข้าวสวยร้อนๆ
แกงจืดฟักแม้วยัดไส้หมูสับ
แกงจืดฟักแม้วยัดไส้หมูสับเป็นหนึ่งในเมนูอาหารไทยที่หลายบ้านชื่นชอบ เพราะมีรสชาติกลมกล่อม น้ำซุปใสร้อน ๆ ที่อร่อยและซดคล่องคอ พร้อมฟักแม้วที่เปี่ยมด้วยคุณค่าทางโภชนาการและหมูสับเนื้อนุ่มที่เต็มไปด้วยรสชาติ
ส่วนผสมแกงจืดฟักแม้วยัดไส้หมูสับ
- ฟักแม้ว 2 ลูก (ล้างสะอาดและคว้านเมล็ดออก)
- หมูสับ 300 กรัม
- กระเทียมสับ 2 กลีบ
- พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ (สำหรับหมักหมู)
- น้ำปลา 1 ช้อนชา (สำหรับปรุงรส)
- น้ำซุปไก่หรือน้ำเปล่า 1.5 ลิตร
- แครอทหั่นแว่น 1/2 ถ้วย
- ต้นหอมซอยสำหรับโรยหน้า
- ผักชีสำหรับตกแต่ง
วิธีทำแกงจืดฟักแม้วยัดไส้หมูสับ
- เตรียมวัตถุดิบ: ล้างฟักแม้วให้สะอาดและคว้านเมล็ดออก เตรียมหมูสับโดยใส่กระเทียม พริกไทย และซีอิ๊วขาวลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน พักไว้ประมาณ 5 นาที
- ยัดไส้ฟักแม้ว: ใช้ช้อนตักหมูสับที่เตรียมไว้ใส่ในฟักแม้วที่คว้านเมล็ดออก กดให้แน่นแต่ไม่อัดเกินไป เพื่อให้หมูสุกง่ายและนุ่ม
- ต้มน้ำซุป: ตั้งหม้อน้ำซุปไก่หรือน้ำเปล่า ใช้ไฟกลางจนเดือด ใส่ฟักแม้วที่ยัดไส้ลงไป ค่อย ๆ ต้มด้วยไฟอ่อนประมาณ 15 นาที
- ใส่แครอทและปรุงรส: ใส่แครอทหั่นแว่นลงไปในน้ำซุป ปรุงรสด้วยน้ำปลา ชิมรสชาติให้กลมกล่อม
- จัดจานและเสิร์ฟ: ตักแกงจืดใส่ชาม โรยหน้าด้วยต้นหอมซอยและผักชี เสิร์ฟร้อน ๆ พร้อมข้าวสวย
ต้มยำปลา
ต้มยำปลาเป็นหนึ่งในอาหารไทยที่คนทั่วโลกรู้จัก ด้วยรสชาติที่จัดจ้านของสมุนไพรไทย ทั้งตะไคร้ ใบมะกรูด และข่า ที่ช่วยเพิ่มความหอมและความอร่อยให้กับเมนูนี้ การทำต้มยำปลาที่บ้านไม่ใช่เรื่องยากเลย เพียงแค่เตรียมวัตถุดิบสดใหม่ และทำตามขั้นตอนง่ายๆ ที่จะอธิบายด้านล่างนี้ คุณก็จะได้ลิ้มรสความอร่อยแบบไทยแท้
ส่วนผสมต้มยำปลา
- ปลา (ปลากะพง/ปลาช่อน/ปลาดอลลี่) 500 กรัม (หั่นชิ้นพอดีคำ)
- น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง
- ตะไคร้ 3 ต้น (หั่นท่อนและบุบพอแตก)
- ข่า 5 แว่น
- ใบมะกรูด 5 ใบ (ฉีกเป็นชิ้น)
- พริกขี้หนู 10 เม็ด (บุบพอแตก)
- หอมแดง 5 หัว (บุบ)
- เห็ดฟางหรือเห็ดนางฟ้า 150 กรัม
- น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำพริกเผา 2 ช้อนโต๊ะ (ไม่บังคับ)
- ผักชีฝรั่ง 2 ต้น (ซอยละเอียด)
- เกลือ 1 ช้อนชา
- พริกแห้งทอด (สำหรับโรยหน้า)
วิธีทำต้มยำปลา
- เตรียมน้ำซุปสมุนไพร: ตั้งน้ำเปล่าในหม้อด้วยไฟกลาง ใส่ตะไคร้ ข่า ใบมะกรูด หอมแดง และเกลือลงไป ต้มจนเดือดเพื่อให้น้ำซุปมีกลิ่นหอมของสมุนไพร
- ใส่ปลาและเห็ด: ใส่ชิ้นปลาลงไปในน้ำซุป (ระวังไม่คนเพื่อไม่ให้ปลาคาว) ตามด้วยเห็ดฟาง ต้มจนปลาสุกดี
- ปรุงรสชาติ: ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำพริกเผา (ถ้าต้องการ) ชิมรสให้ได้ตามชอบ เพิ่มพริกขี้หนูบุบลงไปเพื่อเพิ่มความเผ็ด
- เสิร์ฟและตกแต่ง: ตักต้มยำใส่ชาม โรยด้วยผักชีฝรั่งและพริกแห้งทอด เสิร์ฟร้อนๆ พร้อมข้าวสวย
ซี่โครงอ่อนตุ๋นเห็ดหอม
ซี่โครงอ่อนตุ๋นเห็ดหอมเป็นเมนูอาหารที่ได้รับความนิยมในครัวไทย ด้วยรสชาติที่เข้มข้น หอมละมุน และเนื้อซี่โครงที่นุ่มละลายในปาก เห็ดหอมช่วยเพิ่มกลิ่นอันโดดเด่นและคุณค่าทางโภชนาการ เป็นเมนูที่เหมาะสำหรับมื้อพิเศษหรือมื้อที่ต้องการความอิ่มอร่อย
ส่วนผสมซี่โครงอ่อนตุ๋นเห็ดหอม
- ซี่โครงอ่อนหมู 1 กิโลกรัม
- เห็ดหอมแห้ง 10 ดอก (แช่น้ำให้นุ่ม)
- กระเทียม 5 กลีบ (สับหยาบ)
- ขิงหั่นแว่น 5 ชิ้น
- รากผักชี 3 ราก (ล้างสะอาด)
- ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนชา
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- พริกไทยดำบด 1 ช้อนชา
- น้ำซุปกระดูกหมู 1.5 ลิตร
- ต้นหอมซอยและผักชีสำหรับโรยหน้า
วิธีทำซี่โครงอ่อนตุ๋นเห็ดหอม
- เตรียมวัตถุดิบ: ล้างซี่โครงอ่อนให้สะอาด ตัดเป็นชิ้นพอคำ แช่เห็ดหอมในน้ำอุ่นจนพองตัว นำเห็ดหอมออกมาบีบน้ำเบาๆ เก็บน้ำแช่เห็ดไว้สำหรับเพิ่มรสชาติ
- เจียวเครื่องปรุง: ตั้งหม้อบนไฟกลาง ใส่น้ำมันเล็กน้อย ผัดกระเทียม รากผักชี และขิงจนหอม ใส่ซี่โครงอ่อนลงไปผัดจนเปลี่ยนสี
- ปรุงรส: เติมน้ำซุปกระดูกหมูและน้ำแช่เห็ดหอมลงไปในหม้อ ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ น้ำมันหอย น้ำตาลปี๊บ เกลือ และพริกไทย เคี่ยวด้วยไฟอ่อน
- ตุ๋นจนเนื้อนุ่ม: ใส่เห็ดหอมที่เตรียมไว้ลงในหม้อ ปิดฝาตุ๋นประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง หรือจนซี่โครงอ่อนนุ่มและซึมซับรสชาติ
- จัดจานและเสิร์ฟ: ตักซี่โครงและเห็ดหอมใส่จาน โรยด้วยต้นหอมและผักชี เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ
ไก้ต้มน้ำปลา
ไก่ต้มน้ำปลาเป็นเมนูยอดนิยมที่หลายคนชื่นชอบ ด้วยความเรียบง่ายและรสชาติที่หอมหวานเค็มกลมกล่อม เมนูนี้ไม่เพียงแต่ทำได้ง่าย แต่ยังใช้วัตถุดิบเพียงไม่กี่อย่างที่หาได้ทั่วไปในครัวเรือน เหมาะสำหรับทุกคนที่มองหาอาหารไทยแท้ที่ทำเองได้แบบไม่ยุ่งยาก
ส่วนผสมไก่ต้มน้ำปลา
- ไก่ทั้งตัว (ประมาณ 1.2 กิโลกรัม) 1 ตัว
- น้ำปลาแท้ 1/2 ถ้วย
- น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 5 ถ้วย
- ข่า 2 แว่น
- ตะไคร้ 2 ต้น (ทุบและหั่นท่อน)
- ใบมะกรูด 3 ใบ
- รากผักชี 2 ราก (ทุบ)
- กระเทียม 5 กลีบ (ทุบ)
- พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา
- น้ำจิ้มซีฟู้ด (สำหรับเสิร์ฟคู่)
วิธีทำไก่ต้มน้ำปลา
- เตรียมวัตถุดิบ: ล้างไก่ให้สะอาด ตัดส่วนที่ไม่ต้องการออก จากนั้นพักให้สะเด็ดน้ำ
- ทำน้ำซุป: ตั้งหม้อใส่น้ำเปล่า ใช้ไฟกลาง ใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด รากผักชี กระเทียม และพริกไทยเม็ด ต้มจนเดือดเพื่อให้น้ำซุปมีกลิ่นหอม
- ปรุงรส: ใส่น้ำปลาและน้ำตาลปี๊บลงในหม้อคนให้เข้ากัน ชิมรสให้ออกเค็มนำหวานตาม
- ต้มไก่: ใส่ไก่ทั้งตัวลงในหม้อ ลดไฟเป็นไฟอ่อน-กลาง ปิดฝาแล้วต้มประมาณ 30-40 นาที พลิกไก่ 1-2 ครั้งเพื่อให้เนื้อไก่ซึมซับรสชาติทั่วถึง
- ตรวจสอบความสุก: ใช้ส้อมจิ้มส่วนที่หนาที่สุดของไก่ เช่น สะโพก หรืออก หากไม่มีน้ำสีแดงออกมาแสดงว่าสุกแล้ว
- จัดเสิร์ฟ: นำไก่ขึ้นจากหม้อ หั่นเป็นชิ้นจัดใส่จาน เสิร์ฟพร้อมน้ำซุปและน้ำจิ้มซีฟู้ด
ต้มผู้กอง (ต้มผักกาดดองแบบเผ็ด)
ต้มผู้กอง หรือที่บางคนรู้จักในชื่อ “ต้มผักกาดดองแบบเผ็ด” เป็นเมนูที่เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบรสชาติเข้มข้น ผสมผสานระหว่างรสเปรี้ยวจากผักกาดดองและความเผ็ดร้อนจากพริกสดและเครื่องแกง วิธีทำไม่ยุ่งยากและใช้เวลาสั้น ๆ เหมาะสำหรับวันที่ต้องการอาหารอุ่นๆ ที่อร่อยครบรส
ส่วนผสมต้มผู้กอง
- ผักกาดดอง 300 กรัม (หั่นชิ้นพอดีคำ)
- หมูสามชั้น 200 กรัม (หั่นบางหรือเต้าหู้แข็งแทนได้)
- กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกขี้หนูสด 5-10 เม็ด (ตามชอบ)
- ขิงสดหั่นแว่น 4-5 ชิ้น
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
- น้ำเปล่า 4 ถ้วย
- ต้นหอมซอยสำหรับโรยหน้า
วิธีทำต้มผู้กอง
- เตรียมวัตถุดิบ: ล้างผักกาดดองให้สะอาดเพื่อลดความเค็ม หั่นชิ้นพอดีคำ จากนั้นเตรียมหมูสามชั้นหรือเต้าหู้เป็นชิ้นบาง ๆ และสับกระเทียมให้ละเอียด
- ตั้งน้ำซุป: ตั้งหม้อใส่น้ำเปล่าใช้ไฟกลาง ใส่กระเทียมและขิงสดลงไป ต้มจนมีกลิ่นหอม
- ใส่ผักกาดดองและหมู: ใส่ผักกาดดองและหมูสามชั้นลงในหม้อ ต้มจนหมูเริ่มสุก
- ปรุงรสชาติ: ใส่น้ำปลา ซีอิ๊วขาว น้ำมะขามเปียก และน้ำตาลทราย คนให้เข้ากัน ชิมรสชาติ หากต้องการเผ็ดเพิ่มเติมให้ใส่พริกขี้หนูสดลงไป
- ต้มจนส่วนผสมสุกนุ่ม: ลดไฟลงและต้มต่อประมาณ 10 นาที จนผักกาดดองและหมูนุ่ม
- จัดจานและเสิร์ฟ: ตักต้มผู้กองใส่ชาม โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย เสิร์ฟร้อน ๆ คู่กับข้าวสวย
ต้มยำทะเลน้ำข้น
ต้มยำทะเลน้ำข้นเป็นเมนูที่คนไทยทุกคนคุ้นเคย ด้วยรสชาติที่ครบเครื่องทั้งเปรี้ยว เค็ม หวาน และเผ็ด ผสานกับความหอมของสมุนไพรไทย จึงไม่แปลกใจที่เมนูนี้จะกลายเป็นที่นิยมในหมู่คนไทยและชาวต่างชาติ
ส่วนผสมต้มยำทะเลน้ำข้น
- กุ้งสด 200 กรัม (ปอกเปลือกและผ่าหลัง)
- ปลาหมึก 200 กรัม (หั่นเป็นชิ้นพอคำ)
- หอยแมลงภู่ 150 กรัม
- เห็ดฟาง 100 กรัม (ผ่าครึ่ง)
- ตะไคร้ 2 ต้น (ทุบและหั่นท่อน)
- ข่า 5 แว่น
- ใบมะกรูด 5 ใบ
- น้ำพริกเผา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- นมข้นจืด 1/2 ถ้วย
- น้ำซุปไก่ 3 ถ้วย
- พริกขี้หนูบุบ 10 เม็ด (หรือปรับตามความชอบ)
- ผักชีสำหรับโรยหน้า
วิธีทำต้มยำทะเลน้ำข้น
- เตรียมวัตถุดิบ: ล้างและเตรียมกุ้ง ปลาหมึก และหอยแมลงภู่ให้พร้อม ล้างเห็ดฟางและเตรียมสมุนไพรต่าง ๆ เช่น ตะไคร้ ข่า และใบมะกรูด
- ต้มน้ำซุป: ตั้งหม้อใส่น้ำซุปไก่ ใช้ไฟกลาง ใส่ตะไคร้ ข่า และใบมะกรูดลงไปต้มจนมีกลิ่นหอม
- ใส่ซีฟู้ดและเห็ด: ใส่กุ้ง ปลาหมึก หอยแมลงภู่ และเห็ดฟางลงในหม้อ ต้มจนซีฟู้ดสุกดี
- ปรุงรส: เติมน้ำพริกเผา น้ำปลา น้ำมะนาว และพริกขี้หนูบุบ คนให้เข้ากัน จากนั้นใส่นมข้นจืด คนเบา ๆ เพื่อให้ได้รสชาติที่กลมกล่อม
- เสิร์ฟ: ตักต้มยำใส่ชาม โรยหน้าด้วยผักชี เสิร์ฟร้อน ๆ พร้อมข้าวสวยหรือรับประทานเป็นซุปได้เลย
แกงไก่ใส่วุ้นเส้น
แกงไก่ใส่วุ้นเส้นเป็นเมนูอาหารไทยที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะทั้งทำง่ายและรสชาติอร่อยกลมกล่อม วุ้นเส้นที่เหนียวนุ่มเข้ากันได้ดีกับรสชาติของน้ำแกงและเนื้อไก่ เมนูนี้เหมาะสำหรับทุกมื้ออาหาร ไม่ว่าจะเป็นมื้อกลางวันหรือมื้อเย็นที่ต้องการเมนูร้อนๆ เพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย
ส่วนผสมแกงไก่ใส่วุ้นเส้น
- เนื้อไก่หั่นชิ้นพอดีคำ 300 กรัม
- วุ้นเส้นแช่น้ำให้นุ่ม 100 กรัม
- กะทิ 400 มิลลิลิตร
- น้ำเปล่า 200 มิลลิลิตร
- พริกแกงเผ็ด 2 ช้อนโต๊ะ
- ใบมะกรูดฉีก 4 ใบ
- มะเขือเปราะหั่นชิ้น 4 ลูก
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
- พริกชี้ฟ้าแดงหั่นแฉลบ 2 เม็ด
- โหระพาสำหรับโรยหน้า 1 กำมือ
วิธีทำแกงไก่ใส่วุ้นเส้น
- เตรียมวัตถุดิบ: แช่วุ้นเส้นในน้ำให้นุ่ม หั่นเนื้อไก่ มะเขือเปราะ และพริกชี้ฟ้าให้เรียบร้อย เตรียมใบมะกรูดฉีก
- ผัดพริกแกง: ตั้งหม้อบนไฟกลาง ใส่กะทิลงไป 200 มิลลิลิตร คนให้แตกมัน จากนั้นใส่พริกแกงเผ็ดลงไปผัดจนหอม
- ใส่เนื้อไก่: ใส่เนื้อไก่ลงไปผัดกับพริกแกงจนไก่เริ่มสุกเล็กน้อย
- เติมน้ำและปรุงรส: เติมน้ำเปล่าและกะทิที่เหลือลงไป คนให้เข้ากัน จากนั้นใส่มะเขือเปราะ ใบมะกรูด และปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ
- ใส่วุ้นเส้นและพริก: เมื่อมะเขือเปราะสุก ใส่วุ้นเส้นและพริกชี้ฟ้าลงไป คนให้เข้ากัน ต้มต่ออีก 3-5 นาที
- เสิร์ฟ: ตักแกงใส่ชาม โรยหน้าด้วยโหระพา เสิร์ฟร้อนๆ พร้อมข้าวสวย
ไข่พะโล้
ไข่พะโล้เป็นหนึ่งในเมนูอาหารไทยที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยรสชาติที่หวาน เค็ม และกลมกล่อม ทำให้เป็นจานโปรดของหลายคน วัตถุดิบหลักอย่างไข่ต้มและหมูสามชั้นนั้นสามารถหาได้ง่าย อีกทั้งยังเป็นเมนูที่เหมาะกับทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สามารถทานได้อย่างเพลิดเพลิน
ส่วนผสมไข่พะโล้
- ไข่ไก่ต้มสุก 6 ฟอง
- หมูสามชั้นหั่นชิ้นพอดีคำ 300 กรัม
- กระเทียมทุบ 5 กลีบ
- รากผักชี 3 ราก
- อบเชย 1 แท่ง
- โป๊ยกั๊ก 2 ดอก
- น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนชา
- ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 4 ถ้วย
- ผักชีสำหรับโรยหน้า
วิธีทำไข่พะโล้
- เตรียมวัตถุดิบ: ต้มไข่ไก่ให้สุกและปอกเปลือก หั่นหมูสามชั้นเป็นชิ้นพอดีคำ เตรียมอบเชย โป๊ยกั๊ก และรากผักชีให้พร้อม
- ผัดน้ำตาลและเครื่องเทศ: ตั้งกระทะบนไฟกลาง ใส่น้ำมันพืชและน้ำตาลปี๊บลงไปผัดจนเป็นสีน้ำตาลอ่อน ใส่กระเทียม รากผักชี อบเชย และโป๊ยกั๊ก ผัดให้หอม
- ใส่หมูและปรุงรส: ใส่หมูสามชั้นลงไปผัดจนเริ่มสุก ปรุงรสด้วยซีอิ๊วดำ ซีอิ๊วขาว และน้ำปลา คลุกเคล้าให้เข้ากัน
- เติมน้ำและตุ๋น: เติมน้ำเปล่าลงไปในหม้อ ต้มให้เดือด จากนั้นลดไฟลงเป็นไฟอ่อน ใส่ไข่ต้มสุกลงไป ตุ๋นต่อประมาณ 40 นาทีจนหมูและไข่ดูดซึมน้ำพะโล้จนทั่ว
- จัดเสิร์ฟ: ตักไข่พะโล้และน้ำซุปใส่ชาม โรยหน้าด้วยผักชี เสิร์ฟคู่กับข้าวสวยร้อนๆ
แกงจืดตำลึงหมูสับ
แกงจืดตำลึงหมูสับเป็นหนึ่งในเมนูที่ทั้งง่ายและสุขภาพดี เหมาะกับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะเด็กหรือผู้สูงอายุที่ต้องการอาหารที่ย่อยง่ายและไม่หนักกระเพาะ ด้วยรสชาติที่กลมกล่อมจากน้ำซุปหมูและความหอมของตำลึง เมนูนี้จึงเป็นที่นิยมในทุกครัวเรือน
ส่วนผสมแกงจืดตำลึงหมูสับ
- หมูสับ 200 กรัม
- ตำลึง 2 ถ้วยตวง (ล้างสะอาดและเด็ดใบ)
- น้ำเปล่า 1 ลิตร
- กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1 ช้อนชา
- พริกไทยป่น (ตามชอบ)
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
- แครอทหั่นแว่น 1/2 ถ้วย (เพิ่มสีสันและคุณค่าทางโภชนาการ)
- ต้นหอมซอยสำหรับโรยหน้า
วิธีทำแกงจืดตำลึงหมูสับ
- เตรียมวัตถุดิบ: นำตำลึงมาล้างให้สะอาดและเด็ดใบ เตรียมแครอทหั่นแว่น และสับกระเทียมเตรียมไว้
- ต้มน้ำซุป: ใส่น้ำเปล่าลงในหม้อ ใช้ไฟกลางจนเดือด ใส่กระเทียมสับและเกลือป่นเพื่อเพิ่มความหอม
- ใส่หมูสับ: ปั้นหมูสับเป็นก้อนขนาดพอดีคำ ใส่ลงในน้ำซุปเดือด ต้มจนหมูสุกดี
- ใส่แครอทและปรุงรส: ใส่แครอทลงในหม้อและปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำปลา และพริกไทยป่น ชิมรสตามชอบ
- ใส่ตำลึง: ใส่ตำลึงลงในหม้อ ปิดไฟทันทีเพื่อให้ตำลึงยังคงสีเขียวสด
- เสิร์ฟ: ตักแกงจืดใส่ชาม โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย พร้อมเสิร์ฟร้อนๆ คู่กับข้าวสวย
ต้มจับฉ่าย
ต้มจับฉ่ายเป็นหนึ่งในเมนูที่คนไทยคุ้นเคยดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครอบครัวที่รักสุขภาพและต้องการอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เมนูนี้โดดเด่นด้วยการใช้ผักหลากหลายชนิดที่เคี่ยวจนได้รสชาติกลมกล่อม ไม่เพียงแต่ทำให้อิ่มท้อง แต่ยังช่วยเสริมสุขภาพด้วยสารอาหารที่หลากหลาย
ส่วนผสมต้มจับฉ่าย
- กะหล่ำปลี 1 หัว (หั่นเป็นชิ้นใหญ่)
- หัวไชเท้า 1 หัว (หั่นเป็นแว่น)
- คะน้า 200 กรัม (หั่นเป็นท่อน)
- ขึ้นฉ่าย 100 กรัม (หั่นเป็นท่อน)
- เต้าหู้แข็ง 2 ก้อน (หั่นเป็นชิ้น)
- กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ
- ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนโต๊ะ
- ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- พริกไทยป่น (ตามชอบ)
- น้ำซุปไก่หรือน้ำเปล่า 1.5 ลิตร
- น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำต้มจับฉ่าย
- เตรียมวัตถุดิบ: หั่นผักและเต้าหู้ตามที่ระบุไว้ในส่วนผสม เตรียมกระเทียมสับให้พร้อม
- ผัดกระเทียม: ตั้งหม้อด้วยไฟกลาง ใส่น้ำมันพืชลงไป รอให้น้ำมันร้อนแล้วใส่กระเทียมสับลงไปผัดจนหอม
- เพิ่มผักและเต้าหู้: ใส่ผักที่เตรียมไว้และเต้าหู้ลงไปในหม้อ ผัดให้เข้ากันประมาณ 2-3 นาที
- เติมน้ำซุป: เติมน้ำซุปไก่หรือน้ำเปล่าลงในหม้อ ให้พอท่วมผักทั้งหมด
- ปรุงรส: ใส่ซอสถั่วเหลือง ซอสหอยนางรม และน้ำตาลทราย คนให้เข้ากัน ปิดฝาหม้อและเคี่ยวด้วยไฟอ่อนประมาณ 30-40 นาที จนผักนุ่ม
- ปรับรส: ชิมรสชาติและปรับด้วยพริกไทยตามชอบ หากต้องการรสเค็มเพิ่ม สามารถใส่ซอสถั่วเหลืองเพิ่มเติมได้
- เสิร์ฟ: ตักใส่ชาม โรยด้วยขึ้นฉ่ายที่เหลือ เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ
ต้มโคล้งปลาย่าง
ต้มโคล้งปลาย่างเป็นหนึ่งในเมนูอาหารไทยที่มีรสชาติจัดจ้าน ครบรสทั้งเปรี้ยว เค็ม และเผ็ด อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมของสมุนไพรไทยและปลาย่างที่เพิ่มความกลมกล่อมให้กับน้ำซุป เมนูนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบอาหารไทยรสจัด และต้องการสัมผัสรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของตำรับไทยแท้
ส่วนผสมต้มโคล้งปลาย่าง
- ปลาย่าง 1 ตัว (เช่น ปลาช่อนหรือปลากระพง)
- ข่าอ่อนหั่นแว่น 5-6 ชิ้น
- ตะไคร้ทุบและหั่นเป็นท่อน 2 ต้น
- ใบมะกรูดฉีก 4 ใบ
- หอมแดงทุบ 4-5 หัว
- พริกขี้หนูสวน 10-15 เม็ด (ตามความเผ็ดที่ต้องการ)
- เห็ดฟางหรือเห็ดนางฟ้า 1 ถ้วย (ล้างสะอาดและผ่าครึ่ง)
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 2-3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 4 ถ้วย
- ผักชีฝรั่งซอยสำหรับโรยหน้า
วิธีทำต้มโคล้งปลาย่าง
- เตรียมวัตถุดิบ: ย่างปลาจนมีกลิ่นหอมและสุกดี จากนั้นแกะเนื้อปลาออกเป็นชิ้นใหญ่ๆ และพักไว้ ล้างและเตรียมสมุนไพรต่างๆ เช่น ข่า ตะไคร้ และใบมะกรูด
- ต้มน้ำซุป: ตั้งหม้อ ใส่น้ำเปล่าลงไป ใช้ไฟกลางจนเดือด ใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และหอมแดงลงไป ต้มให้มีกลิ่นหอม
- ปรุงรส: ใส่เนื้อปลาย่างและเห็ดลงไปในน้ำซุป ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำมะขามเปียก ชิมรสให้ได้เปรี้ยว เค็ม และเผ็ดตามชอบ
- ใส่พริกและโรยหน้า: ใส่พริกขี้หนูสวนที่เตรียมไว้ คนให้เข้ากัน ต้มต่ออีกประมาณ 2-3 นาที ปิดไฟแล้วโรยหน้าด้วยผักชีฝรั่ง
- เสิร์ฟ: ตักต้มโคล้งปลาย่างใส่ชาม เสิร์ฟร้อนๆ พร้อมข้าวสวย
เมนูต้มเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกคนที่ต้องการอาหารที่ทำง่าย ได้คุณค่าทางอาหารครบถ้วน และเหมาะสำหรับทุกช่วงเวลาในชีวิต การลองทำ 20 เมนูต้มจากบทความนี้ไม่เพียงแต่ทำให้มื้ออาหารของคุณพิเศษขึ้น แต่ยังเป็นการสร้างบรรยากาศที่ดีในครอบครัวผ่านการลงมือทำอาหารด้วยตัวเอง
เมื่อคุณมีสูตรและวิธีทำที่ครบถ้วนแล้ว ลองเลือกเมนูที่เหมาะกับความชอบของคุณหรือคนในครอบครัว และเตรียมพร้อมสำหรับการทำอาหารที่ง่าย อร่อย และเต็มไปด้วยคุณค่า การทำอาหารเองคือการเติมเต็มชีวิตด้วยรสชาติและความใส่ใจในทุกจาน