รวม 20 เมนูอาหารเช้า ทำเองได้ อร่อยครบจบในมื้อเดียว

อาหารเช้าเป็นมื้อสำคัญที่ช่วยเติมพลังให้กับการเริ่มต้นวันใหม่อย่างสดใส แต่ในความเร่งรีบของชีวิตประจำวัน หลายคนอาจเลือกที่จะข้ามมื้อนี้ไปหรือเลือกซื้ออาหารสำเร็จรูปที่อาจไม่ค่อยมีคุณภาพและสารอาหารที่ครบถ้วน การทำอาหารเช้าเองจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่ไม่เพียงช่วยประหยัดเงิน แต่ยังช่วยให้คุณได้ควบคุมคุณภาพและความอร่อยได้ตามใจชอบ

ในบทความนี้ เราได้รวบรวม 20 เมนูอาหารเช้าที่ทำง่าย เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นเมนูคลาสสิกอย่างไข่กระทะ หรือเมนูฟิวชั่นที่ผสมผสานวัฒนธรรมการกินที่หลากหลาย นอกจากนี้ เรายังระบุส่วนผสมอย่างละเอียดและวิธีทำที่สามารถทำตามได้ทันที ช่วยให้คุณสามารถเตรียมอาหารเช้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่รักการทำอาหาร หรือมือใหม่ที่กำลังมองหาเมนูที่ทำง่ายและไม่ซับซ้อน บทความนี้จะช่วยให้คุณเริ่มต้นมื้อเช้าได้อย่างสมบูรณ์แบบและมีความสุขไปกับการทำอาหารที่แสนอร่อยด้วยตัวเอง

ไข่กระทะ

ไข่กระทะเป็นหนึ่งในเมนูอาหารเช้าที่ทั้งง่ายและอร่อย มีต้นกำเนิดจากภาคอีสานของไทย และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในทุกภูมิภาค ด้วยวัตถุดิบที่เรียบง่ายและขั้นตอนการทำที่ไม่ซับซ้อน ไข่กระทะจึงเหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการมื้อเช้าที่รวดเร็ว แต่ยังครบคุณค่าทางโภชนาการ

ส่วนผสมไข่กระทะ

1. ไข่ไก่ 4 ฟอง
2. หมูยอหั่นชิ้น 50 กรัม
3. กุนเชียงหั่นชิ้นบาง 50 กรัม
4. แฮมหั่นเต๋า 50 กรัม
5. เนยสด 1 ช้อนโต๊ะ
6. หอมใหญ่ซอย 1/4 หัว
7. ต้นหอมซอยสำหรับโรยหน้า
8. ซอสปรุงรสหรือน้ำปลา 1 ช้อนชา
9. พริกไทยป่นเล็กน้อย (ตามชอบ)

วิธีทำไข่กระทะ

1. เตรียมวัตถุดิบ: หั่นหมูยอ กุนเชียง และแฮมให้เป็นชิ้นเล็กๆ เตรียมหอมใหญ่ซอย และต้นหอมซอยสำหรับโรยหน้า
2. ตั้งกระทะและละลายเนย: ใช้กระทะเล็กหรือกระทะสำหรับทำไข่กระทะ ตั้งไฟอ่อนแล้วใส่เนยสดลงไปจนละลาย
3. ทอดเครื่องเคียง: ใส่หมูยอ กุนเชียง และแฮมลงในกระทะ ผัดเบาๆ จนเริ่มหอมและเหลืองเล็กน้อย จากนั้นดันไปด้านข้างกระทะ
4. ใส่ไข่ไก่: ตอกไข่ไก่ลงในกระทะ ใช้ไฟอ่อนเพื่อให้ไข่ขาวสุกแต่ไข่แดงยังคงเป็นยางมะตูม
5. ปรุงรสและตกแต่ง: โรยหอมใหญ่ซอยและต้นหอมซอย เพิ่มซอสปรุงรสหรือน้ำปลาตามชอบ โรยพริกไทยเล็กน้อย
6. เสิร์ฟ: ยกกระทะลงจากเตาและเสิร์ฟทันที พร้อมขนมปังปิ้งหรือข้าวสวยร้อนๆ

แกงจืดหมูสับใส่สาหร่าย

แกงจืดหมูสับใส่สาหร่ายเป็นเมนูที่หลายคนคุ้นเคยและโปรดปราน เนื่องจากมีรสชาติอ่อนโยนและเหมาะสำหรับทุกวัย ด้วยส่วนผสมที่เรียบง่ายและหาซื้อได้ทั่วไป แกงจืดนี้จึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับมื้ออาหารที่เบาแต่ยังคงอิ่มท้อง

ส่วนผสมแกงจืดหมูสับใส่สาหร่าย

1. หมูสับ 200 กรัม
2. สาหร่ายแห้ง 10 กรัม (แช่น้ำให้นุ่ม)
3. น้ำซุปไก่ 4 ถ้วยตวง
4. แครอทหั่นแว่น 1/2 ถ้วย
5. หัวไชเท้าหั่นชิ้น 1/2 ถ้วย
6. เต้าหู้ไข่ 1 หลอด (หั่นชิ้นพอดีคำ)
7. กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
8. ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
9. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
10. พริกไทยป่น (ตามชอบ)
11. ต้นหอมและผักชีสำหรับโรยหน้า

วิธีทำแกงจืดหมูสับใส่สาหร่าย

1. เตรียมน้ำซุป: ตั้งหม้อบนเตา เติมน้ำซุปไก่ แล้วเปิดไฟกลางจนเดือด
2. ใส่หมูสับ: ปั้นหมูสับเป็นก้อนเล็กๆ แล้วใส่ลงในน้ำซุป รอจนหมูสุก
3. เพิ่มผักและเต้าหู้: ใส่แครอท หัวไชเท้า และเต้าหู้ไข่ลงไปในหม้อ ปล่อยให้เดือดต่อประมาณ 5 นาทีจนผักนุ่ม
4. ปรุงรส: ใส่ซีอิ๊วขาว น้ำปลา และพริกไทยป่นตามชอบ ชิมรสชาติและปรับตามความต้องการ
5. ใส่สาหร่าย: ใส่สาหร่ายที่แช่น้ำให้นุ่มแล้วลงไปในหม้อ คนเบาๆ และปิดไฟ
6. จัดเสิร์ฟ: ตักแกงจืดใส่ชาม โรยด้วยต้นหอมและผักชีเพื่อเพิ่มความหอม เสิร์ฟร้อนพร้อมข้าวสวย

ข้าวเหนียวหมูฝอย

ข้าวเหนียวหมูฝอยเป็นเมนูอาหารที่อยู่คู่กับครัวไทยมาอย่างยาวนาน ด้วยรสชาติหวาน เค็ม และสัมผัสนุ่มของหมูฝอยที่เข้ากันได้ดีกับข้าวเหนียวร้อนๆ นี่คืออาหารที่สามารถทานได้ทุกมื้อ ไม่ว่าจะเป็นอาหารเช้าหรือของว่างในยามบ่าย

ส่วนผสมข้าวเหนียวหมูฝอย

ข้าวเหนียว

1. ข้าวเหนียวเขี้ยวงู 2 ถ้วย
2. น้ำเปล่าสำหรับแช่ข้าว
3. ใบเตย 2-3 ใบ (ไม่บังคับ)

หมูฝอย

1. เนื้อหมูสันใน 300 กรัม
2. น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
4. ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนชา
5. หอมแดงซอย 5 หัว
6. น้ำมันพืชสำหรับทอด

วิธีทำข้าวเหนียวหมูฝอย

การเตรียมข้าวเหนียว

1. ล้างข้าวเหนียวให้สะอาด 3-4 ครั้ง จากนั้นแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 4 ชั่วโมงหรือข้ามคืนเพื่อให้ข้าวเหนียวพองตัว
2. นำข้าวเหนียวขึ้นสะเด็ดน้ำ วางใบเตยลงในหวด (หรือซึ้ง) เพื่อเพิ่มกลิ่นหอม จากนั้นนำข้าวเหนียวลงนึ่งด้วยไฟกลางประมาณ 20-25 นาทีจนข้าวเหนียวสุก

การทำหมูฝอย

1. ล้างเนื้อหมูให้สะอาด ซับน้ำให้แห้ง แล้วนำไปต้มในน้ำเดือดประมาณ 20 นาทีจนสุก ตักขึ้นมาพักให้เย็น
2. ฉีกเนื้อหมูเป็นเส้นฝอยเล็กๆ จากนั้นพักไว้
3. ตั้งกระทะบนไฟกลาง ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา ซีอิ๊วดำ และหอมแดงซอยลงไป คนให้ส่วนผสมละลายเข้ากันจนกลิ่นหอม
4. ใส่หมูที่ฉีกไว้ลงไปคลุกเคล้ากับส่วนผสมในกระทะ ลดไฟอ่อน ผัดต่อจนหมูแห้งและเคลือบด้วยน้ำปรุงรสอย่างทั่วถึง
5. ตั้งกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อย ทอดหมูฝอยในน้ำมันไฟอ่อนจนกรอบ แล้วนำขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน

การจัดเสิร์ฟ

1. จัดข้าวเหนียวร้อนๆ ใส่จาน วางหมูฝอยด้านบน พร้อมเสิร์ฟ
2. สามารถเพิ่มไข่เค็มหรือผักสด เช่น แตงกวา หรือใบชะพลู เป็นเครื่องเคียงได้ตามความชอบ

ไข่ตุ๋น

ไข่ตุ๋นเป็นเมนูยอดนิยมที่ทั้งอร่อยและทำง่าย เหมาะสำหรับมื้อที่ต้องการความเบาและสุขภาพดี ไม่ว่าจะเป็นมื้อเช้า มื้อเย็น หรือเป็นเมนูเสริมในมื้อใหญ่ ความนุ่มละมุนของไข่ตุ๋นเนียน ๆ ช่วยเพิ่มความสุขในมื้ออาหารได้อย่างลงตัว

ส่วนผสมไข่ตุ๋น

1. ไข่ไก่ 2 ฟอง
2. น้ำสะอาด 1/2 ถ้วยตวง (หรือใช้น้ำซุปสำหรับเพิ่มรสชาติ)
3. ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
4. เกลือเล็กน้อย (ตามชอบ)
5. น้ำมันงา 1/2 ช้อนชา (ไม่บังคับ)
6. ต้นหอมซอยสำหรับโรยหน้า
7. แครอทหั่นเต๋าเล็ก ๆ (สำหรับตกแต่ง)

วิธีทำไข่ตุ๋น

1. เตรียมส่วนผสม: ตอกไข่ลงในชามผสม ใส่น้ำสะอาดหรือซุปลงไป จากนั้นเติมซีอิ๊วขาวและเกลือ ตีส่วนผสมให้เข้ากันจนไข่เนียนละเอียด
2. กรองไข่: นำส่วนผสมไข่ที่ตีเสร็จแล้วมากรองผ่านตะแกรงเพื่อให้ไข่เนียนละเอียดและไม่มีฟองอากาศ
3. เทไข่ใส่ถ้วย: เทส่วนผสมไข่ลงในถ้วยหรือชามทนความร้อน จากนั้นปิดด้วยฟอยล์หรือจานเพื่อป้องกันน้ำหยดลงบนไข่
4. ตุ๋นไข่: ตั้งหม้อนึ่ง ใช้ไฟกลาง-อ่อน รอจนน้ำเดือดอ่อน ๆ วางถ้วยไข่ลงในหม้อนึ่งและปิดฝา ตุ๋นประมาณ 10 นาทีจนไข่สุก
5. ตกแต่งและเสิร์ฟ: โรยหน้าด้วยต้นหอมซอยและแครอทหั่นเต๋า พร้อมเสิร์ฟร้อน ๆ

ข้าวต้มกระดูกหมู

ข้าวต้มกระดูกหมูเป็นอีกหนึ่งเมนูยอดนิยมในครัวไทยที่ไม่เคยตกเทรนด์ ไม่ว่าจะมื้อเช้า มื้อเย็น หรือมื้อดึก เมนูนี้ก็สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้ทุกเวลา ด้วยรสชาติที่หอมกลมกล่อมจากน้ำซุปที่เคี่ยวกระดูกหมูจนหวาน และเนื้อกระดูกหมูที่เปื่อยนุ่ม ข้าวต้มกระดูกหมูจึงเป็นเมนูโปรดของใครหลายคน

ส่วนผสมข้าวต้มกระดูกหมู

1. กระดูกหมู 500 กรัม (เลือกกระดูกอ่อนเพื่อความนุ่ม)
2. ข้าวสวย 2 ถ้วย
3. กระเทียมทุบ 5 กลีบ
4. รากผักชีทุบ 3 ราก
5. น้ำเปล่า 8 ถ้วย
6. ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
7. เกลือ 1 ช้อนชา
8. พริกไทยป่น 1 ช้อนชา (หรือปรับตามชอบ)
9. ต้นหอมซอย 2 ต้น
10. ผักชีซอย 2 ต้น
11. กระเทียมเจียวสำหรับโรยหน้า
12. น้ำปลาและพริกขี้หนูสำหรับเสิร์ฟคู่ (ไม่บังคับ)

วิธีทำข้าวต้มกระดูกหมู

1. เตรียมวัตถุดิบ: ล้างกระดูกหมูให้สะอาดแล้วพักไว้ ต้มข้าวสวยให้ได้ความนุ่มที่พอเหมาะ เตรียมรากผักชีและกระเทียมโดยทุบให้พอแตก
2. เคี่ยวน้ำซุป: ใส่น้ำเปล่า 8 ถ้วยลงในหม้อ ตั้งไฟกลางจนเดือด ใส่กระดูกหมู รากผักชี และกระเทียมลงไป ลดไฟลงเป็นไฟอ่อน เคี่ยวประมาณ 30 นาทีจนกระดูกหมูเปื่อยและน้ำซุปหอมหวาน
3. ปรุงรสซุป: ใส่เกลือ ซีอิ๊วขาว และพริกไทยลงในน้ำซุป คนให้เข้ากัน เคี่ยวต่ออีก 10 นาทีเพื่อให้รสชาติซึมเข้าสู่กระดูกหมู
4. เตรียมข้าวต้ม: นำข้าวสวยที่เตรียมไว้แบ่งใส่ชามเสิร์ฟ ตักน้ำซุปและกระดูกหมูลงในชามข้าวต้ม
5. ตกแต่งและเสิร์ฟ: โรยหน้าด้วยต้นหอม ผักชี และกระเทียมเจียว เสิร์ฟพร้อมน้ำปลาและพริกขี้หนูถ้าต้องการเพิ่มรสชาติ

ซุปไก่มันฝรั่ง

ซุปไก่มันฝรั่งเป็นเมนูที่ทำง่าย ใช้วัตถุดิบไม่ซับซ้อน เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว เมนูนี้มีทั้งรสชาติกลมกล่อมและคุณค่าทางอาหาร โดยมีส่วนผสมหลักคือเนื้อไก่และมันฝรั่งที่อุดมไปด้วยโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต ทำให้เป็นมื้ออาหารที่สมบูรณ์แบบ

ส่วนผสมซุปไก่มันฝรั่ง

1. เนื้อไก่ (หั่นชิ้นพอดีคำ) 300 กรัม
2. มันฝรั่ง (ปอกเปลือกและหั่นเต๋า) 2 หัว
3. แครอท (หั่นเต๋า) 1 หัว
4. หอมหัวใหญ่ (สับหยาบ) 1 หัว
5. กระเทียม (สับละเอียด) 3 กลีบ
6. น้ำซุปไก่ 1 ลิตร
7. ใบกระวาน 2 ใบ
8. เกลือ 1 ช้อนชา
9. พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
10. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
11. ต้นหอมและผักชีสำหรับโรยหน้า

วิธีทำซุปไก่มันฝรั่ง

1. เตรียมวัตถุดิบ: ล้างเนื้อไก่ให้สะอาดและหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ปอกเปลือกมันฝรั่งและแครอท หั่นเป็นชิ้นเต๋าขนาดเล็ก
2. ผัดส่วนผสมพื้นฐาน: ตั้งหม้อบนไฟกลาง ใส่น้ำมันพืช ผัดกระเทียมและหอมหัวใหญ่จนมีกลิ่นหอม ใส่เนื้อไก่ลงไปผัดจนเปลี่ยนเป็นสีขาว
3. เติมน้ำซุปและมันฝรั่ง: เทน้ำซุปไก่ลงในหม้อ ใส่มันฝรั่ง แครอท และใบกระวาน ต้มด้วยไฟกลางจนเดือด
4. ปรุงรส: ลดไฟเป็นไฟอ่อน ใส่เกลือและพริกไทย ชิมรสตามชอบ ปิดฝาและต้มต่อประมาณ 15 นาทีจนผักนุ่มและไก่สุก
5. จัดจาน: ตักซุปใส่ชาม โรยหน้าด้วยต้นหอมและผักชี พร้อมเสิร์ฟ

ซุปกระดูกหมู

ซุปกระดูกหมูเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมไม่ว่าจะในครัวเรือนหรือร้านอาหาร ด้วยรสชาติที่กลมกล่อมและความอร่อยจากน้ำซุปที่เคี่ยวจากกระดูกหมู เมนูนี้ไม่เพียงแต่อร่อยแต่ยังอุดมไปด้วยสารอาหารจากกระดูกหมู เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว

ส่วนผสมซุปกระดูกหมู

1. กระดูกหมู 500 กรัม (เลือกส่วนกระดูกอ่อนเพื่อเพิ่มความหวานของน้ำซุป)
2. หอมหัวใหญ่ 1 หัว (หั่นครึ่ง)
3. แครอท 1 หัว (หั่นเป็นชิ้นใหญ่)
4. ขึ้นฉ่าย 3 ต้น (หั่นเป็นท่อน)
5. กระเทียม 5 กลีบ (ทุบให้แตก)
6. พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา
7. เกลือ 1 ช้อนชา
8. น้ำเปล่า 2 ลิตร
9. ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
10. ต้นหอมซอยสำหรับโรยหน้า

วิธีทำซุปกระดูกหมู

1. ล้างกระดูกหมู: ล้างกระดูกหมูให้สะอาด จากนั้นลวกในน้ำเดือดประมาณ 5 นาทีเพื่อลดกลิ่นคาว จากนั้นนำขึ้นพักไว้
2. เตรียมน้ำซุป: ตั้งหม้อใส่น้ำเปล่า เปิดไฟแรงจนเดือด ใส่กระดูกหมูที่ลวกไว้ลงไป ลดไฟลงเป็นไฟกลาง
3. เพิ่มความหวานให้ซุป: ใส่หอมหัวใหญ่ แครอท ขึ้นฉ่าย และกระเทียมลงไปในหม้อ เติมพริกไทยเม็ดและเกลือ เคี่ยวด้วยไฟอ่อนประมาณ 1 ชั่วโมง
4. ปรุงรส: หลังจากเคี่ยวจนกระดูกหมูนุ่มและน้ำซุปหวานกลมกล่อม ให้ใส่ซีอิ๊วขาวและปรับรสชาติตามชอบ เคี่ยวต่ออีก 30 นาที
5. เสิร์ฟ: ตักซุปใส่ชาม โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยหรือกินเปล่า ๆ ได้ตามความชอบ

ต้มเลือดหมู

ต้มเลือดหมูเป็นเมนูอาหารไทยที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ด้วยรสชาติที่กลมกล่อมจากน้ำซุปและความหลากหลายของวัตถุดิบ เช่น เลือดหมู เครื่องใน และผักต่างๆ เมนูนี้ไม่ได้มีแค่ความอร่อย แต่ยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการอาหารสุขภาพ

ส่วนผสมต้มเลือดหมู

1. น้ำเปล่า 6 ถ้วย
2. เลือดหมูหั่นชิ้น 200 กรัม
3. เครื่องในหมู (ตับ ไส้ กระเพาะ) 300 กรัม
4. หมูบด 200 กรัม
5. รากผักชีทุบ 3 ราก
6. กระเทียมทุบ 5 กลีบ
7. พริกไทยเม็ดทุบ 1 ช้อนชา
8. เกลือป่น 1 ช้อนชา
9. ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
10. ผักชีซอยสำหรับโรยหน้า
11. ต้นหอมซอยสำหรับโรยหน้า
12. ผักกาดหอม 1 หัว
13. ขึ้นฉ่ายหั่นท่อน 1/2 ถ้วย

วิธีทำต้มเลือดหมู

1. เตรียมวัตถุดิบ: ล้างเลือดหมูและเครื่องในหมูให้สะอาด โดยล้างเครื่องในหมูด้วยน้ำเกลือเพื่อขจัดกลิ่นคาว จากนั้นหั่นเครื่องในและเลือดหมูเป็นชิ้นพอดีคำ
2. ทำซุป: ตั้งน้ำเปล่าในหม้อ ใส่รากผักชี กระเทียม และพริกไทยเม็ดทุบลงไป ต้มด้วยไฟกลางจนเดือด แล้วลดไฟลงให้ซุปเคี่ยวเบาๆ เพื่อให้น้ำซุปมีกลิ่นหอม
3. ลวกเครื่องใน: ใส่เครื่องในหมูลงไปลวกในน้ำเดือดจนสุก แล้วตักขึ้นพักไว้
4. ปรุงรส: ใส่หมูบดลงในน้ำซุป ปรุงรสด้วยเกลือและซีอิ๊วขาว เคี่ยวต่อประมาณ 10 นาทีจนหมูบดสุกดี
5. เติมส่วนผสม: ใส่เลือดหมูและเครื่องในลงในหม้อ ต้มต่ออีก 5 นาที จากนั้นใส่ผักกาดหอมและขึ้นฉ่าย ปิดไฟทันทีเพื่อให้ผักยังคงความสด
6. จัดเสิร์ฟ: ตักต้มเลือดหมูใส่ชาม โรยหน้าด้วยต้นหอมและผักชี เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

ซุปไข่สาหร่าย

ซุปไข่สาหร่ายเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมในหมู่คนรักสุขภาพและผู้ที่ชื่นชอบอาหารเบา ๆ ด้วยส่วนผสมที่เรียบง่ายแต่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง ทำให้เหมาะกับทุกมื้ออาหาร โดยเฉพาะมื้อเช้าหรือมื้อเย็นที่ต้องการอะไรเบา ๆ แต่ยังคงรสชาติที่อร่อยและกลมกล่อม

ส่วนผสมซุปไข่สาหร่าย

1. น้ำซุปไก่ 4 ถ้วย
2. ไข่ไก่ 2 ฟอง
3. สาหร่ายแห้ง 1 ถ้วย (แช่น้ำให้นุ่ม)
4. ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
5. ขิงสดหั่นแว่น 3 แว่น
6. ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
7. เกลือ 1/2 ช้อนชา
8. พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
9. น้ำมันงา 1 ช้อนชา (สำหรับเพิ่มความหอม)

วิธีทำซุปไข่สาหร่าย

1. เตรียมน้ำซุป: ตั้งหม้อใส่น้ำซุปไก่ ใช้ไฟกลาง ใส่ขิงสดลงไปต้มจนกลิ่นหอมประมาณ 5 นาที
2. ปรุงรสน้ำซุป: เติมซีอิ๊วขาว เกลือ และพริกไทย คนให้เข้ากัน แล้วลดไฟลงให้เป็นไฟอ่อน
3. ทำไข่ลอยตัว: ตีไข่ไก่ให้เข้ากัน จากนั้นค่อย ๆ เทไข่ลงในหม้อขณะที่คนเบา ๆ เพื่อให้ไข่ฟูเป็นเส้นบาง ๆ ลอยในน้ำซุป
4. ใส่สาหร่าย: เติมสาหร่ายที่แช่น้ำจนพองตัวแล้วลงไปในหม้อ คนให้เข้ากันและต้มต่ออีกประมาณ 2 นาที
5. เพิ่มความหอม: เติมน้ำมันงาลงไป คนเบา ๆ ปิดไฟ โรยหน้าด้วยต้นหอมซอยก่อนเสิร์ฟ

ข้าวต้มหมูสับ

ข้าวต้มหมูสับเป็นเมนูที่คุ้นเคยกันดีในครัวไทย ไม่ว่าจะเป็นมื้อเช้าเบา ๆ หรือมื้อเย็นที่ต้องการอะไรอุ่น ๆ เมนูนี้เหมาะกับทุกโอกาส ด้วยวัตถุดิบที่หาได้ง่าย และขั้นตอนการทำที่ไม่ยุ่งยาก จึงเป็นเมนูโปรดของหลายครอบครัว

ส่วนผสมข้าวต้มหมูสับ

1. ข้าวหอมมะลิ 1 ถ้วย (หุงสุก)
2. หมูสับ 300 กรัม
3. กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ
4. รากผักชี 2 ราก (ทุบ)
5. น้ำซุปไก่ 5 ถ้วย
6. ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
8. พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
9. ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
10. ผักชีซอย 2 ช้อนโต๊ะ
11. กระเทียมเจียวสำหรับโรยหน้า
12. เกลือเล็กน้อย

วิธีทำข้าวต้มหมูสับ

• หุงข้าวหอมมะลิให้สุก พักไว้
• หมักหมูสับด้วยซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะและพริกไทยป่นเล็กน้อย ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที
• ตั้งหม้อบนไฟกลาง ใส่น้ำซุปไก่ลงไป ตามด้วยกระเทียมสับและรากผักชี ต้มจนน้ำเดือด
• ลดไฟลง ใส่หมูสับที่หมักไว้ลงไปต้ม ค่อย ๆ ใช้ทัพพีคนให้หมูสับกระจายตัว ไม่จับเป็นก้อน
• ใส่ซีอิ๊วขาว น้ำปลา และเกลือเล็กน้อย คนให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ
• ใส่ข้าวหอมมะลิที่หุงสุกลงไปในหม้อ ต้มต่อประมาณ 5 นาทีจนข้าวดูดซึมน้ำซุปและนุ่มขึ้น
• ตักข้าวต้มใส่ชาม โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว ต้นหอมซอย และผักชีซอย
• เสิร์ฟร้อน ๆ พร้อมพริกไทยป่นเพิ่มรสชาติ

ข้าวต้มกุ้ง

ข้าวต้มกุ้งเป็นเมนูที่หลายคนชื่นชอบ เพราะนอกจากจะทำง่ายแล้วยังเหมาะสำหรับทุกมื้ออาหาร ไม่ว่าจะเป็นมื้อเช้าที่ต้องการความเบา ๆ ย่อยง่าย หรือมื้อเย็นที่อยากได้ความอบอุ่นและสบายท้อง

ส่วนผสมข้าวต้มกุ้ง

1. กุ้งสด 200 กรัม (ล้างสะอาดและปอกเปลือก)
2. ข้าวหอมมะลิหุงสุก 2 ถ้วย
3. น้ำซุปไก่หรือน้ำซุปกระดูกหมู 4 ถ้วย
4. กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
6. พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
7. ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
8. ผักชีสำหรับโรยหน้า 2 ช้อนโต๊ะ
9. ขิงซอยบาง 1 ช้อนโต๊ะ
10. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำข้าวต้มกุ้ง

1. เตรียมวัตถุดิบ: ล้างกุ้งสดให้สะอาด ปอกเปลือกและผ่าหลังนำเส้นดำออก ต้มน้ำซุปไก่หรือกระดูกหมูในหม้อจนร้อน
2. ผัดกระเทียม: ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช ใช้ไฟอ่อน ใส่กระเทียมสับลงไปผัดจนเหลืองและมีกลิ่นหอม
3. ต้มข้าวต้ม: ใส่ข้าวหุงสุกลงในหม้อน้ำซุปร้อน ๆ คนเบา ๆ ให้เข้ากัน จากนั้นใส่กุ้งลงไป ต้มต่อจนกุ้งสุก
4. ปรุงรส: เติมน้ำปลาและพริกไทยป่น คนให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ
5. เสิร์ฟ: ตักข้าวต้มใส่ชาม โรยด้วยต้นหอม ผักชี และขิงซอย พร้อมเสิร์ฟร้อน ๆ

แซนวิชไข่ข้นเกาหลี

หากคุณกำลังมองหาเมนูมื้อเช้าที่ทำง่ายแต่ได้รสชาติอร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการ “แซนวิชไข่ข้นเกาหลี” คือคำตอบที่ลงตัว เมนูนี้ผสมผสานไข่นุ่มฟู รสชาติเข้มข้น และขนมปังหอมกรุ่น ทำให้อาหารเช้าของคุณไม่น่าเบื่ออีกต่อไป

ส่วนผสมแซนวิชไข่ข้นเกาหลี

1. ขนมปังแผ่น 4 แผ่น
2. ไข่ไก่ 3 ฟอง
3. นมสด 2 ช้อนโต๊ะ
4. เนย 1 ช้อนโต๊ะ
5. เกลือ 1/4 ช้อนชา
6. พริกไทยดำบด 1/4 ช้อนชา
7. ชีสแผ่น 2 แผ่น
8. แฮมหรือเบคอน (ตามชอบ) 2 ชิ้น
9. น้ำมันเล็กน้อยสำหรับทอด
10. ผักสลัด (เช่น กรีนโอ๊คหรือเรดโอ๊ค)

วิธีทำแซนวิชไข่ข้นเกาหลี

1. เตรียมวัตถุดิบ: ตีไข่ในชามผสม ใส่นมสด เกลือ และพริกไทย คนให้เข้ากันจนเนียนดี
2. ทำไข่ข้น: ตั้งกระทะบนไฟอ่อน ใส่เนยให้ละลาย จากนั้นเทไข่ลงไป ใช้ตะหลิวคนเบา ๆ ให้ไข่สุกแต่ยังนุ่มฟู เมื่อเสร็จให้ยกลงจากเตา
3. เตรียมขนมปัง: ตั้งกระทะอีกครั้ง ใช้น้ำมันเล็กน้อยแล้วนำแฮมหรือเบคอนไปทอดจนสุก หอมกรุ่น ยกขึ้นพักไว้ จากนั้นนำขนมปังลงไปจี่ในกระทะจนเหลืองกรอบเล็กน้อย
4. ประกอบแซนวิช: วางชีสแผ่นบนขนมปัง ตามด้วยไข่ข้น แฮมหรือเบคอน และผักสลัด ปิดด้วยขนมปังอีกแผ่น กดเบา ๆ ให้ส่วนผสมแน่น
5. เสิร์ฟ: หั่นแซนวิชเป็นครึ่งเสี้ยวหรือชิ้นตามชอบ พร้อมเสิร์ฟทันทีในจานเสิร์ฟ

แซนวิชทูน่า

แซนวิชทูน่าเป็นเมนูที่ใครหลายคนชื่นชอบ เพราะทำง่าย ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที และยังเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ อุดมด้วยโปรตีนและไขมันดีจากปลาทูน่า เหมาะสำหรับมื้อเร่งด่วนหรือต้องการของว่างระหว่างวัน

ส่วนผสมแซนวิชทูน่า

1. ปลาทูน่ากระป๋องในน้ำเกลือ 1 กระป๋อง (ประมาณ 150 กรัม)
2. มายองเนส 2 ช้อนโต๊ะ
3. ขนมปังแผ่น 4 แผ่น
4. ผักกาดหอม 4 ใบ
5. มะเขือเทศ 1 ลูก (หั่นแว่น)
6. หอมใหญ่ 1/4 หัว (หั่นบาง)
7. เกลือ 1/4 ช้อนชา (หรือปรับตามชอบ)
8. พริกไทยดำบด 1/4 ช้อนชา (หรือปรับตามชอบ)
9. น้ำมะนาว 1 ช้อนชา

วิธีทำแซนวิชทูน่า

• เปิดปลาทูน่ากระป๋อง สะเด็ดน้ำเกลือออกให้หมด
• นำทูน่ามาผสมกับมายองเนส น้ำมะนาว เกลือ และพริกไทยในชามผสม คนให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียว
• นำขนมปังแผ่นไปปิ้งหรืออุ่นให้พอกรอบ (ถ้าชอบ)
• ล้างผักกาดหอมและมะเขือเทศให้สะอาด ซับให้แห้ง
• วางผักกาดหอมลงบนขนมปังชั้นแรก ตามด้วยไส้ทูน่าที่เตรียมไว้
• วางมะเขือเทศและหอมใหญ่ที่หั่นบาง ๆ ทับบนไส้ทูน่า
• ปิดด้วยขนมปังอีกแผ่น กดเบา ๆ เพื่อให้ส่วนผสมติดกัน
• หั่นแซนวิชเป็นครึ่งตามแนวทแยง หรือเสิร์ฟทั้งชิ้น
• จัดใส่จาน เสิร์ฟพร้อมกับผลไม้สดหรือซุปโปรด

ข้าวผัดไข่

ข้าวผัดไข่เป็นเมนูยอดนิยมที่หลายคนเลือกทำในวันที่อยากได้อาหารง่าย ๆ แต่ยังคงอร่อยและน่าประทับใจ ด้วยวัตถุดิบพื้นฐานที่หาได้ในครัว เช่น ข้าวสวย ไข่ไก่ และเครื่องปรุงรส ทำให้เมนูนี้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับทุกคน

ส่วนผสมข้าวผัด

1. ข้าวสวย (ควรเป็นข้าวเย็น) 2 ถ้วย
2. ไข่ไก่ 2 ฟอง
3. กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
5. ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
6. ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
8. พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
9. ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
10. แตงกวาหรือมะเขือเทศสำหรับจัดเสิร์ฟ

วิธีทำข้าวผัด

• ตักข้าวสวยออกจากตู้เย็น ใช้ช้อนหรือมือยีให้ข้าวแตกเม็ด
• ตอกไข่ใส่ชาม ตีให้เข้ากันเตรียมไว้
• สับกระเทียมให้ละเอียด
• ตั้งกระทะบนไฟกลาง ใส่น้ำมันพืช รอจนร้อน
• ใส่กระเทียมสับลงไปเจียวจนหอม
• เทไข่ไก่ที่ตีไว้ลงในกระทะ ใช้ตะหลิวคนไข่ให้กระจาย
• พอไข่เริ่มเซ็ตตัว ใส่ข้าวสวยลงไปผัดให้เข้ากัน
• เติมซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม น้ำตาล และพริกไทยป่น ผัดให้เข้ากันจนข้าวร่วนและเคลือบด้วยเครื่องปรุง
• โรยต้นหอมซอยลงในกระทะ ผัดอีกเล็กน้อย
• ตักใส่จาน เสิร์ฟพร้อมแตงกวาหรือมะเขือเทศ

โจ๊ก

โจ๊กหมูเป็นเมนูอาหารเช้าที่ทั้งอิ่มอร่อยและง่ายต่อการทำเองที่บ้าน เป็นอาหารที่ได้รับความนิยมไม่เพียงแต่ในประเทศไทย แต่ยังเป็นที่รู้จักในหลายประเทศแถบเอเชีย ความพิเศษของโจ๊กหมูอยู่ที่เนื้อโจ๊กที่ต้องเนียนนุ่ม หอมกลิ่นข้าว และหมูเด้งที่เคี้ยวเพลิน

ส่วนผสมโจ๊กหมู

สำหรับโจ๊ก

1. ข้าวสารหอมมะลิ 1 ถ้วย
2. น้ำซุปกระดูกหมู 6 ถ้วย
3. เกลือ 1/2 ช้อนชา

สำหรับหมูเด้ง

1. หมูบด 300 กรัม
2. ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
3. แป้งมันสำปะหลัง 1 ช้อนชา
4. น้ำมันงา 1 ช้อนชา
5. พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา

สำหรับเสิร์ฟ

1. ขิงซอย 2 ช้อนโต๊ะ
2. ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
3. ผักชีซอย 1 ช้อนโต๊ะ
4. ไข่ลวก (ตามชอบ)
5. พริกไทยป่น (สำหรับโรยหน้า)

วิธีทำโจ๊กหมู

1. เตรียมโจ๊ก

1. ล้างข้าวสารหอมมะลิให้สะอาด แช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นสะเด็ดน้ำออก
2. ใส่ข้าวที่แช่ไว้ลงในหม้อ เติมน้ำซุปกระดูกหมู และเกลือ ตั้งไฟกลาง คอยคนเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้ข้าวติดหม้อ
3. ต้มจนข้าวเริ่มสุกและแตกตัว ใช้ทัพพีคนข้าวให้ละเอียดจนเนื้อเนียน สามารถเติมน้ำซุปเพิ่มได้หากต้องการเนื้อโจ๊กที่บางลง

2. เตรียมหมูเด้ง

1. ในชามผสม ใส่หมูบด ซีอิ๊วขาว แป้งมันสำปะหลัง น้ำมันงา และพริกไทยป่น คลุกเคล้าให้เข้ากัน
2. ปั้นหมูบดเป็นก้อนกลมขนาดพอดีคำ พักไว้

3. ปรุงโจ๊กหมู

1. ใส่ก้อนหมูเด้งลงในหม้อโจ๊ก ต้มจนหมูเด้งสุกดี
2. ชิมรสชาติและปรับเพิ่มเกลือหรือซีอิ๊วขาวตามชอบ

4. จัดเสิร์ฟ

1. ตักโจ๊กใส่ชาม โรยหน้าด้วยขิงซอย ต้นหอม ผักชี และพริกไทยป่น
2. เสิร์ฟพร้อมไข่ลวกตามชอบ

ไข่ลวก

ไข่ลวกเป็นหนึ่งในเมนูอาหารเช้าที่เรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ อีกทั้งยังสามารถทำได้รวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาน้อยในช่วงเช้า ด้วยรสสัมผัสที่นุ่มละมุนและความหอมมันของไข่ ทำให้ไข่ลวกกลายเป็นเมนูที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ชื่นชอบ

ส่วนผสมไข่ลวก

1. ไข่ไก่ขนาดกลาง 2 ฟอง (ควรเป็นไข่ที่สดใหม่)
2. น้ำร้อน 500 มิลลิลิตร
3. น้ำเย็นสำหรับแช่ไข่

วิธีทำไข่ลวก

1. เตรียมน้ำร้อน: ต้มน้ำให้เดือดจนถึงอุณหภูมิประมาณ 80-90 องศาเซลเซียส หากไม่มีเทอร์โมมิเตอร์ สามารถตั้งน้ำให้เดือดแล้วปิดไฟทันที
2. ใส่ไข่ในน้ำร้อน: นำไข่ไก่ใส่ลงในน้ำร้อนที่เตรียมไว้ ปิดฝาภาชนะแล้วตั้งเวลา 5 นาที สำหรับไข่ลวกแบบนุ่ม หากต้องการไข่ที่สุกกว่านี้ ให้เพิ่มเวลาอีก 1-2 นาที
3. แช่ในน้ำเย็น: เมื่อครบเวลา ให้นำไข่ขึ้นจากน้ำร้อนแล้วแช่ในน้ำเย็นทันที เพื่อหยุดกระบวนการสุกและช่วยให้ปอกเปลือกได้ง่ายขึ้น
4. เสิร์ฟ: ค่อย ๆ ปอกเปลือกไข่ลวก แล้วตักใส่ถ้วย เสิร์ฟพร้อมซอสถั่วเหลืองหรือพริกไทยตามชอบ

ไก่ทอดหาดใหญ่

ไก่ทอดหาดใหญ่เป็นเมนูที่ครองใจคนไทยและชาวต่างชาติ ด้วยความกรอบนอกนุ่มใน และรสชาติที่หอมเข้มข้นจากเครื่องเทศไทยแท้ ๆ ทำให้เป็นที่นิยมในทุกโอกาส ไก่ทอดนี้ไม่เพียงแต่รสชาติอร่อย แต่ยังมีกลิ่นหอมของกระเทียมเจียวและเครื่องเทศที่ทำให้คนรักไก่ทอดยากจะต้านทาน

ส่วนผสมไก่ทอดหาดใหญ่

สำหรับหมักไก่

1. น่องไก่หรือสะโพกไก่ 1 กิโลกรัม
2. กระเทียม 10 กลีบ (โขลกละเอียด)
3. รากผักชี 2 ราก (โขลกละเอียด)
4. พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
5. ผงขมิ้น 1 ช้อนชา
6. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
7. เกลือ 1 ช้อนชา
8. นมข้นจืด 1/2 ถ้วย

สำหรับทอด

1. แป้งทอดกรอบ 1 ถ้วย
2. น้ำมันพืชสำหรับทอด (ประมาณ 1 ลิตร)
3. กระเทียมเจียว 1/2 ถ้วย

วิธีทำไก่ทอดหาดใหญ่

ขั้นตอนการหมักไก่

1. ล้างไก่ให้สะอาด ใช้ส้อมจิ้มที่ผิวไก่ให้ทั่วเพื่อช่วยให้เครื่องหมักซึมเข้าเนื้อ
2. ผสมกระเทียม รากผักชี พริกไทยป่น ผงขมิ้น น้ำตาล เกลือ และนมข้นจืดในชามผสม คนให้เข้ากัน
3. ใส่ไก่ลงไปคลุกเคล้ากับเครื่องหมักให้ทั่ว หมักทิ้งไว้ในตู้เย็นอย่างน้อย 2 ชั่วโมง หรือหมักข้ามคืนเพื่อรสชาติที่เข้มข้น

ขั้นตอนการทอด

1. นำไก่ที่หมักไว้มาคลุกแป้งทอดกรอบให้ทั่ว เคาะแป้งส่วนเกินออกเล็กน้อย
2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช ใช้ไฟกลางจนร้อน
3. ใส่ไก่ลงทอดทีละชิ้น อย่าทอดทีเดียวทั้งหมดเพื่อให้น้ำมันคงความร้อน
4. ทอดจนไก่สุกเหลืองกรอบ ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที จากนั้นตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน
5. ทอดกระเทียมเจียวในน้ำมันที่เหลือให้เหลืองกรอบ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน

ข้าวเหนียวหมูปิ้ง

ข้าวเหนียวหมูปิ้งเป็นหนึ่งในเมนูที่ใครหลายคนหลงรัก ไม่ว่าจะเป็นมื้อเช้าเร่งด่วน มื้อรองท้องระหว่างวัน หรืออาหารที่เหมาะสำหรับพกพาไปกินได้ทุกที่ หมูปิ้งหอม ๆ ที่เข้าคู่กับข้าวเหนียวนุ่ม ๆ กลายเป็นสัญลักษณ์ของอาหารไทยที่ทั้งอิ่มอร่อยและทำง่าย

ส่วนผสมข้าวเหนียวหมูปิ้ง

หมูปิ้ง

1. เนื้อหมูสันนอกหรือสันคอ 500 กรัม (หั่นชิ้นบางสำหรับเสียบไม้)
2. ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
5. ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
6. นมข้นจืด 1/4 ถ้วย
7. รากผักชี 3 ราก (สับละเอียด)
8. กระเทียม 5 กลีบ (สับละเอียด)
9. พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
10. ไม้เสียบสำหรับหมูปิ้ง

ข้าวเหนียว

1. ข้าวเหนียวเขี้ยวงู 2 ถ้วยตวง
2. น้ำสะอาดสำหรับแช่ข้าว
3. น้ำสะอาดสำหรับนึ่ง

วิธีทำข้าวเหนียวหมูปิ้ง

เตรียมหมูปิ้ง

1. หมักหมู: ผสมซีอิ๊วขาว น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ ซอสหอยนางรม นมข้นจืด รากผักชี กระเทียม และพริกไทยป่นในชามผสม คนให้น้ำตาลละลาย
2. ใส่หมูที่เตรียมไว้ลงในส่วนผสม คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วหมักทิ้งไว้ในตู้เย็นอย่างน้อย 2 ชั่วโมง หรือข้ามคืนเพื่อให้หมูซึมซับเครื่องปรุง
3. เสียบไม้: นำหมูที่หมักไว้ออกมาเสียบไม้เตรียมไว้สำหรับปิ้ง

ปิ้งหมู

1. ตั้งเตาถ่านหรือเตาไฟฟ้าด้วยไฟกลาง ย่างหมูปิ้งจนสุก หมั่นพลิกไม้และทาน้ำหมักหมูที่เหลือเพื่อเพิ่มความชุ่มฉ่ำ
2. ปิ้งต่อจนหมูสุกหอมและมีสีสวย

เตรียมข้าวเหนียว

1. แช่ข้าวเหนียว: ล้างข้าวเหนียวให้สะอาด 3 รอบ จากนั้นแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 4 ชั่วโมง หรือข้ามคืน
2. นึ่งข้าวเหนียว: ตั้งหม้อนึ่ง เติมน้ำสะอาด ใส่ข้าวเหนียวในผ้าขาวบางแล้วนึ่งด้วยไฟกลางประมาณ 20 นาที พลิกข้าวเหนียวระหว่างนึ่งเพื่อให้สุกทั่ว

ข้าวเหนียวหมูทอด

ข้าวเหนียวหมูทอดเป็นเมนูที่หลายคนโปรดปราน เพราะมีความอร่อยลงตัวจากหมูทอดที่หอมกรอบนอกนุ่มใน ทานคู่กับข้าวเหนียวนึ่งร้อน ๆ ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและอิ่มท้องในทุกมื้อ

ส่วนผสมข้าวเหนียวหมูทอด

หมูทอด

1. เนื้อหมูส่วนสันคอ 500 กรัม (หั่นชิ้นพอคำ)
2. กระเทียม 5 กลีบ (สับละเอียด)
3. รากผักชี 3 ราก (สับละเอียด)
4. ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
5. ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
6. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
8. แป้งมันสำปะหลัง 2 ช้อนโต๊ะ
9. น้ำมันสำหรับทอด

ข้าวเหนียว

1. ข้าวเหนียวเขี้ยวงู 2 ถ้วย
2. น้ำเปล่าสำหรับแช่ข้าวเหนียว
3. ใบเตย 2 ใบ (เพิ่มกลิ่นหอม)

วิธีทำข้าวเหนียวหมูทอด

การเตรียมหมูทอด

1. หมักหมู: ใส่เนื้อหมูในชามผสม ตามด้วยกระเทียม รากผักชี ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว น้ำปลา และน้ำตาลทราย คลุกเคล้าให้เข้ากัน
2. เพิ่มความนุ่ม: ใส่แป้งมันสำปะหลังลงไปผสมกับเนื้อหมู หมักทิ้งไว้ในตู้เย็นประมาณ 15 นาที เพื่อให้รสชาติเข้าเนื้อ
3. ทอดหมู: ตั้งกระทะใส่น้ำมัน ใช้ไฟกลางจนร้อน นำหมูหมักลงทอดจนสีเหลืองทอง กรอบนอกนุ่มใน ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน

การหุงข้าวเหนียว

1. แช่ข้าวเหนียว: ล้างข้าวเหนียวให้สะอาด แล้วแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง หรือข้ามคืนเพื่อให้ข้าวนุ่ม
2. นึ่งข้าวเหนียว: ตั้งหม้อนึ่งใส่น้ำเดือด ใส่ข้าวเหนียวในผ้าขาวบางพร้อมใบเตย นึ่งประมาณ 20-25 นาที จนข้าวเหนียวสุกนุ่ม

ข้าวจี่

ข้าวจี่เป็นเมนูพื้นบ้านที่คนไทยรู้จักกันดี มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยรสชาติหอมมันและความกรอบของข้าวเหนียวคลุกไข่ที่ย่างจนหอมจากเตาถ่าน เมนูนี้มีความเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของวัฒนธรรมพื้นบ้านที่สืบทอดมายาวนาน

ส่วนผสมข้าวจี่

1. ข้าวเหนียวสุก 2 ถ้วย (ปั้นเป็นก้อนขนาดพอดีมือ)
2. ไข่ไก่ 2 ฟอง
3. เกลือ 1/2 ช้อนชา
4. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
5. ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
6. น้ำมันพืชสำหรับทาเล็กน้อย

วิธีทำข้าวจี่

• ตีไข่ไก่ในชามผสม เติมเกลือ น้ำตาลทราย และซีอิ๊วขาว คนให้เข้ากันดี
• ปั้นข้าวเหนียวสุกให้เป็นก้อนแบนหนาประมาณ 1-2 เซนติเมตร
• จุ่มข้าวเหนียวปั้นลงในชามไข่ที่ตีไว้ ให้ไข่เคลือบทั่วทั้งก้อน
• วางบนตะแกรงหรือภาชนะที่เตรียมไว้
• ตั้งเตาถ่านให้ไฟแรงปานกลาง ทาตะแกรงด้วยน้ำมันพืชบาง ๆ
• วางข้าวจี่ที่คลุกไข่ลงบนตะแกรง ย่างจนผิวด้านนอกเริ่มกรอบและมีกลิ่นหอม
• พลิกกลับด้านและย่างต่อจนสุกทั้งสองด้าน ใช้เวลาประมาณ 5-7 นาทีต่อด้าน
  • ตักข้าวจี่ใส่จาน เสิร์ฟร้อน ๆ คู่กับน้ำพริกหรือรับประทานเปล่า ๆ ก็อร่อย

อาหารเช้าไม่เพียงเป็นมื้อที่สำคัญต่อสุขภาพ แต่ยังเป็นช่วงเวลาที่ช่วยสร้างความสุขและพลังใจให้กับการเริ่มต้นวันใหม่ การมีเมนูที่หลากหลายและง่ายต่อการเตรียมช่วยลดความกดดันในตอนเช้า และยังเพิ่มความสนุกสนานให้กับการทำอาหาร

หวังว่า 20 เมนูอาหารเช้าที่เรานำเสนอในบทความนี้จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้คุณได้ลองทำเมนูใหม่ๆ และช่วยให้มื้อเช้าของคุณเต็มไปด้วยความสุขและสารอาหารครบถ้วน

ลองเลือกเมนูที่คุณชอบ และสนุกไปกับการทำอาหารเช้าให้คนที่คุณรัก หรือแม้แต่เพื่อตัวคุณเอง เพราะทุกๆ วันดีๆ เริ่มต้นได้จากมื้อเช้าที่มีคุณภาพและความใส่ใจ