อิซากายะ (Izakaya) คืออะไร? ร้านเหล้าสไตล์ญี่ปุ่น
เคยสงสัยไหมว่า “อิซากายะ” ที่เราได้ยินบ่อย ๆ ในวงสนทนาเกี่ยวกับอาหารญี่ปุ่นหรือในซีรีส์ที่ชอบดูนั้นมันคืออะไรกันแน่? ถ้าจะให้พูดแบบง่าย ๆ อิซากายะ (Izakaya) ก็เหมือนร้านเหล้าสไตล์ญี่ปุ่นที่ไม่ใช่แค่ให้เราไปนั่งดื่ม แต่ยังเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศอบอุ่น อาหารอร่อย ๆ และการพูดคุยสังสรรค์แบบเป็นกันเอง เหมือนเราได้นั่งกินข้าวกับเพื่อนฝูงหลังเลิกงาน แต่อิซากายะนั้นมีอะไรมากกว่านั้นเยอะเลยนะ มันมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เมนูที่หลากหลาย และเอกลักษณ์ที่ทำให้คนทั่วโลกหลงรัก
ลองนึกภาพตามดูสิ หลังจากวันที่เหนื่อยล้ามาทั้งวัน ได้นั่งในร้านไม้เล็ก ๆ มีโคมไฟแดงห้อยอยู่หน้าร้าน กลิ่นย่างของอาหารลอยมาแตะจมูก พร้อมกับเสียงหัวเราะและแก้วเบียร์ที่กระทบกันเบา ๆ นี่แหละคือเสน่ห์ของอิซากายะที่เราจะพาไปรู้จักกันในบทความนี้ ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเคยได้ยินคำนี้ หรือคนที่อยากรู้ลึก ๆ ถึงที่มาและสิ่งที่ทำให้อิซากายะแตกต่างจากร้านอาหารทั่วไป บทความนี้มีคำตอบให้คุณครบเลย
เราจะพาคุณไปสำรวจกันตั้งแต่ประวัติของอิซากายะ ว่ามันเกิดขึ้นมาได้ยังไง เมนูยอดฮิตที่ไม่ควรพลาดมีอะไรบ้าง รวมถึงเคล็ดลับในการเลือกไปร้านอิซากายะดี ๆ สักร้านในไทยหรือที่ญี่ปุ่น พร้อมแล้วใช่ไหม? มาดำดิ่งสู่โลกของอิซากายะกันเลย!
สารบัญ
ประวัติความเป็นมาของอิซากายะ

อิซากายะไม่ได้เกิดขึ้นมาแบบทันทีทันใดในฐานะร้านอาหารญี่ปุ่นที่ดังไปทั่วโลก แต่มันมีรากฐานมาจากสมัยเอโดะ (ค.ศ. 1603-1868) ซึ่งเป็นยุคที่ญี่ปุ่นเริ่มมีการค้าขายและวัฒนธรรมที่คึกคักมากขึ้น เดิมทีคำว่า “อิซากายะ” มาจากคำว่า “อิ” (อยู่) และ “ซากายะ” (ร้านเหล้า) ซึ่งแปลตรงตัวได้ว่า “ร้านเหล้าที่นั่งอยู่ได้” ตอนนั้นร้านเหล้าทั่วไปจะขายสาเกให้ลูกค้าซื้อกลับไปดื่มที่บ้าน แต่บางร้านเริ่มให้ลูกค้านั่งดื่มในร้านได้เลย ซึ่งนี่คือจุดเริ่มต้นของอิซากายะ
ในสมัยก่อน อิซากายะเป็นสถานที่ที่คนธรรมดา เช่น พ่อค้า ชาวนา หรือคนงาน จะแวะมานั่งดื่มหลังจากทำงานหนักมาทั้งวัน บรรยากาศในร้านก็ไม่ได้หรูหรา เป็นแค่ร้านเล็ก ๆ ที่มีที่นั่งแบบง่าย ๆ บางครั้งก็แค่เสื่อ tatami ปูพื้น แต่สิ่งที่ทำให้คนติดใจคือความรู้สึกผ่อนคลายและเป็นกันเอง ไม่เหมือนร้านอาหารชั้นสูงที่คนทั่วไปเข้าไม่ถึง ต่อมาเมื่อเวลาผ่านไป ร้านเหล่านี้เริ่มเพิ่มอาหารง่าย ๆ อย่างปลาย่างหรือเต้าหู้มาเสิร์ฟคู่กับสาเก ทำให้กลายเป็นที่นิยมมากขึ้น
จนถึงยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 อิซากายะเริ่มพัฒนาเป็นรูปแบบที่เราเห็นในปัจจุบัน บรรยากาศที่เคยเรียบง่ายถูกปรับให้ทันสมัยขึ้น มีเมนูหลากหลายมากขึ้น และกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการกินดื่มของญี่ปุ่น (คนญี่ปุ่น) ไปโดยปริยาย ทุกวันนี้ อิซากายะไม่ใช่แค่ร้านเหล้าธรรมดาแล้ว แต่เป็นสถานที่ที่สะท้อนวิถีชีวิตและความสนุกสนานของคนญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว
สิ่งที่น่าสนใจคือ อิซากายะไม่ได้หยุดอยู่แค่ในญี่ปุ่นเท่านั้น เมื่อวัฒนธรรมญี่ปุ่นเริ่มแพร่หลายไปทั่วโลก ร้านอิซากายะก็เริ่มผุดขึ้นในเมืองใหญ่ ๆ ทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยด้วย! ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพฯ หรือเชียงใหม่ คุณสามารถหาอิซากายะดี ๆ ที่มีกลิ่นอายญี่ปุ่นแท้ ๆ ได้ไม่ยากเลย
เมนูเด็ดในอิซากายะที่ต้องลอง
ถ้าพูดถึงอิซากายะ สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือเมนูอาหารที่ทั้งอร่อยและเข้ากันได้ดีกับเครื่องดื่ม เมนูในอิซากายะมักจะเป็นอาหารง่าย ๆ ที่เน้นรสชาติแบบโฮมเมด แต่เต็มไปด้วยความพิถีพิถัน หนึ่งในเมนูยอดฮิตที่ทุกคนต้องสั่งคือ “ยากิโทริ” (Yakitori) หรือไก่ย่างเสียบไม้ เนื้อไก่นุ่ม ๆ ย่างบนเตาถ่านจนหอมกรุ่น ทานคู่กับเบียร์เย็น ๆ หรือสาเก บอกเลยว่าฟินสุด ๆ
อีกเมนูที่ไม่ควรพลาดคือ “ซาชิมิ” และ “ซูชิ” ที่บางร้านอิซากายะจะเสิร์ฟแบบสดใหม่ ถึงแม้จะไม่ใช่ทุกที่ที่มีเมนูนี้ แต่ถ้าร้านไหนมี คุณจะได้ลิ้มรสปลาดิบที่ตัดมาแบบพอดีคำ คู่กับโชยุและวาซาบิแท้ ๆ นอกจากนี้ยังมี “เอดามาเมะ” (ถั่วแระญี่ปุ่นต้ม) ที่เป็นของว่างง่าย ๆ แต่กินเพลินจนหยุดไม่ได้ เหมาะมากสำหรับคนที่อยากกินอะไรเบา ๆ ขณะจิบเครื่องดื่ม

สำหรับคนชอบของทอด “คาราอาเกะ” (ไก่ทอดสไตล์ญี่ปุ่น) ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ห้ามข้าม ไก่ชิ้นโต ๆ หมักด้วยเครื่องปรุงสูตรพิเศษ ทอดจนกรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟพร้อมมายองเนสหรือน้ำจิ้มรสเผ็ดนิด ๆ เข้ากันดีกับเบียร์หรือโซจูมาก ๆ และถ้าอยากได้อะไรอุ่น ๆ ทานแก้หนาว “นาเบะ” หรือหม้อไฟญี่ปุ่นก็เป็นเมนูที่หลายร้านอิซากายะมีให้เลือก ทั้งแบบเนื้อวัว ซีฟู้ด หรือผักล้วน
ที่สำคัญคือ อิซากายะมักจะมีเมนูพิเศษตามฤดูกาลด้วย เช่น ปลาอายุ (Ayu) ย่างในหน้าร้อน หรือซุปมิโซะร้อน ๆ ในหน้าหนาว ทำให้ทุกครั้งที่ไป คุณอาจได้เจออะไรใหม่ ๆ ที่ไม่ซ้ำกันเลย สุดท้ายนี้อย่าลืมสั่งเครื่องดื่มมาคู่กันนะ ไม่ว่าจะเป็นสาเกร้อน เบียร์สด หรือค็อกเทลสไตล์ญี่ปุ่น เพราะนี่คือหัวใจของอิซากายะเลยล่ะ
เสน่ห์ของอิซากายะที่แตกต่างจากร้านอื่น
อะไรที่ทำให้อิซากายะพิเศษกว่าร้านอาหารหรือบาร์ทั่วไป? คำตอบอยู่ที่บรรยากาศและความรู้สึกที่มันมอบให้ ร้านอิซากายะส่วนใหญ่จะออกแบบให้ดูอบอุ่นและเป็นกันเอง ไม่ว่าจะเป็นร้านเล็ก ๆ ที่มีที่นั่งแค่สิบที่ หรือร้านใหญ่ที่มีห้องส่วนตัวแบบญี่ปุ่น (Tatami Room) คุณจะรู้สึกเหมือนได้หลุดเข้าไปในโลกของญี่ปุ่นแท้ ๆ ทันทีที่ก้าวเข้าไป
อีกหนึ่งเสน่ห์คือการที่อิซากายะเป็นสถานที่ที่ทุกคนสามารถมาได้ ไม่ว่าคุณจะมากับเพื่อนฝูง ครอบครัว หรือแม้แต่มาคนเดียว เจ้าของร้านหรือพนักงานมักจะต้อนรับคุณด้วยรอยยิ้มและคำทักทายอย่าง “อิรัสไชมาเสะ!” (ยินดีต้อนรับ) ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นลูกค้าประจำแม้จะเพิ่งเคยมาเป็นครั้งแรก การพูดคุยกับคนในร้าน ไม่ว่าจะเป็นพนักงานหรือลูกค้าคนอื่น ๆ ก็เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่อื่น

นอกจากนี้ อิซากายะยังเน้นความหลากหลายของอาหารและเครื่องดื่ม คุณสามารถสั่งอะไรก็ได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นของว่างเบา ๆ หรืออาหารจานใหญ่ และไม่ต้องกังวลเรื่องราคามากนัก เพราะส่วนใหญ่ร้านอิซากายะจะมีเมนูที่ราคาไม่แพง เหมาะกับคนที่อยากกินดื่มแบบสบาย ๆ โดยไม่ต้องแต่งตัวหรูหรือจองโต๊ะล่วงหน้า
สุดท้ายนี้ อิซากายะยังเป็นเหมือนสถานที่ที่เก็บความทรงจำของคนญี่ปุ่นหลายคนไว้ ไม่ว่าจะเป็นการฉลองหลังเลิกงาน การเดตครั้งแรก หรือการนั่งคุยกับเพื่อนเก่า มันไม่ใช่แค่ร้านอาหาร แต่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและความสนุกสนาน ซึ่งนี่แหละที่ทำให้อิซากายะกลายเป็นที่รักของคนทั่วโลก
วิธีเลือกอิซากายะดี ๆ ในไทยและญี่ปุ่น
ถ้าคุณอยากลองไปอิซากายะสักครั้งแต่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน ลองดูเคล็ดลับเหล่านี้สิ! ข้อแรกเลยคือดูรีวิวจากคนที่เคยไปมาแล้ว ไม่ว่าจะใน Google Maps หรือโซเชียลมีเดีย ร้านที่ดีมักจะมีคนพูดถึงเยอะ โดยเฉพาะเรื่องอาหารสดใหม่และบริการที่เป็นมิตร ในไทย ร้านอิซากายะดัง ๆ มักจะอยู่ในย่านอย่างทองหล่อ สุขุมวิท หรือสีลม ส่วนที่ญี่ปุ่น ลองไปย่านชินจูกุหรือโดทงโบริในโอซาก้า รับรองไม่ผิดหวัง
ข้อสองคือสังเกตบรรยากาศร้าน ถ้าคุณชอบแบบดั้งเดิม ให้เลือกร้านที่มีโคมไฟแดงหน้าร้านและการตกแต่งแบบไม้ แต่ถ้าชอบแบบทันสมัยหน่อย ร้านที่มีเคาน์เตอร์บาร์และดนตรีเบา ๆ ก็เป็นตัวเลือกที่ดี อีกอย่างคือลองถามเพื่อนที่เคยไป หรือดูเมนูออนไลน์ก่อนไป จะได้รู้ว่าร้านนั้นมีอะไรที่คุณชอบหรือเปล่า
ทิ้งท้าย
อิซากายะไม่ใช่แค่ร้านอาหารหรือร้านเหล้าธรรมดา แต่มันคือประสบการณ์ที่ผสมผสานระหว่างอาหารอร่อย เครื่องดื่มดี ๆ และความรู้สึกอบอุ่นแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ จากประวัติศาสตร์อันยาวนาน เมนูที่หลากหลาย ไปจนถึงเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร อิซากายะคือสถานที่ที่คุณสามารถปลดปล่อยความเหนื่อยล้าและสนุกไปกับช่วงเวลาดี ๆ ได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไทยหรือมีโอกาสไปญี่ปุ่น ลองแวะไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมคนถึงหลงรักมัน
ถ้าบทความนี้ทำให้คุณอยากลองไปอิซากายะสักร้าน อย่ารอช้า! ชวนเพื่อนหรือคนพิเศษไปลิ้มรสเมนูเด็ด ๆ แล้วมาเล่าให้ฟังในคอมเมนต์กันบ้างนะว่าเมนูไหนที่คุณชอบที่สุด หรือถ้าคุณมีร้านอิซากายะเด็ด ๆ ในใจ แชร์มาให้เพื่อน ๆ ได้ตามไปลองกันด้วย สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการกินดื่มสไตล์ญี่ปุ่น แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้าจ้า!