20 เมนูอาหารเย็นพร้อมส่วนผสมและวิธีทำที่ง่ายและอร่อย
เมนูอาหารเย็นเป็นอีกหนึ่งมื้อสำคัญที่หลายคนใส่ใจ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพ หรือการเตรียมเมนูที่อร่อยและเหมาะสำหรับครอบครัว การได้ทานอาหารเย็นพร้อมหน้ากันยังเป็นช่วงเวลาที่ช่วยสร้างความอบอุ่นและความสัมพันธ์ในครอบครัวได้อย่างดี
ในบทความนี้เราได้รวบรวม 20 เมนูอาหารเย็นที่ทำเองได้ง่าย ๆ พร้อมส่วนผสมที่หาไม่ยาก และวิธีทำที่เข้าใจง่าย เมนูเหล่านี้เหมาะสำหรับทุกคนไม่ว่าจะมือใหม่หรือมือโปรในครัว รับรองได้ว่าคุณจะได้ทั้งความอร่อยและความสนุกในการทำอาหาร
การเลือกทำอาหารเย็นที่บ้านยังช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งรสชาติและควบคุมสุขภาพได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นอาหารจานเดียว อาหารไทย อาหารตะวันตก หรือเมนูเพื่อสุขภาพ คุณสามารถเลือกได้ตามสไตล์และความชอบ
หมูสามชั้นผัดพริกเผา
หมูสามชั้นผัดพริกเผาเป็นหนึ่งในเมนูอาหารไทยยอดนิยมที่คนรักอาหารรสจัดไม่ควรพลาด ความอร่อยของจานนี้มาจากความเข้มข้นของน้ำพริกเผา ผสมผสานกับความมันของหมูสามชั้นและความกรอบของผักสดที่ใส่เพิ่มเข้าไป
ส่วนผสมหมูสามชั้นผัดพริกเผา
- หมูสามชั้นหั่นชิ้นพอดีคำ 300 กรัม
- น้ำพริกเผา 2 ช้อนโต๊ะ
- หอมหัวใหญ่ซอย 1 หัว
- พริกสดหั่นเฉียง 3 เม็ด
- กระเทียมสับ 2 กลีบ
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- ใบมะกรูดฉีก 4 ใบ
- ต้นหอมซอย 1 ต้น (สำหรับโรยหน้า)
- ผักสด เช่น แตงกวา หรือผักสลัด (สำหรับเสิร์ฟคู่)
วิธีทำหมูสามชั้นผัดพริกเผา
- เตรียมวัตถุดิบ: หั่นหมูสามชั้นเป็นชิ้นพอดีคำ เตรียมหอมหัวใหญ่ พริกสด กระเทียม และใบมะกรูดให้พร้อมใช้งาน
- ตั้งกระทะ: ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ ตั้งไฟกลางจนร้อน ใส่กระเทียมสับลงไปผัดจนหอม
- ผัดหมูสามชั้น: ใส่หมูสามชั้นลงไปในกระทะ ผัดจนเริ่มสุกและมีสีเหลืองทอง
- ใส่เครื่องปรุง: ใส่น้ำพริกเผา น้ำปลา และน้ำตาลทราย ผัดให้เข้ากันจนหมูเคลือบด้วยซอสอย่างทั่วถึง
- ใส่ผัก: ใส่หอมหัวใหญ่ พริกสด และใบมะกรูดลงไป ผัดต่ออีกประมาณ 2-3 นาทีจนผักสุกพอดี
- จัดจาน: ตักหมูสามชั้นผัดพริกเผาใส่จาน โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ และผักสด
ข้าวผัดปลากระป๋อง
ข้าวผัดปลากระป๋องเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมมากในครัวเรือน เนื่องจากทำง่าย ใช้วัตถุดิบเพียงไม่กี่อย่าง และเหมาะกับช่วงเวลาที่ต้องการมื้ออาหารด่วน ไม่เพียงแต่ประหยัดเวลา แต่ยังประหยัดงบประมาณอีกด้วย วัตถุดิบหลักอย่างปลากระป๋องยังช่วยเพิ่มรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการให้กับจานนี้
ส่วนผสมข้าวผัดปลากระป๋อง
- ข้าวสวย 2 ถ้วย (ควรใช้ข้าวเย็นเพื่อไม่ให้ข้าวแฉะ)
- ปลากระป๋องในซอสมะเขือเทศ 1 กระป๋อง (เลือกยี่ห้อตามชอบ)
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- กระเทียมสับ 2 กลีบ
- หอมหัวใหญ่ซอยบาง 1/2 หัว
- แครอทหั่นเต๋า 1/4 ถ้วย
- ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
- พริกไทยป่น (ตามชอบ)
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- ต้นหอมซอยสำหรับโรยหน้า
- มะนาวและพริกขี้หนูสำหรับเสิร์ฟคู่ (ไม่บังคับ)
วิธีทำข้าวผัดปลากระป๋อง
- เตรียมวัตถุดิบ: นำข้าวสวยพักไว้ให้เย็น เตรียมไข่ไก่และสับกระเทียมให้ละเอียด หั่นหอมหัวใหญ่และแครอทเตรียมไว้
- ผัดกระเทียมและหอมใหญ่: ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช ใช้ไฟกลาง ใส่กระเทียมและหอมหัวใหญ่ลงไปผัดจนมีกลิ่นหอม
- ใส่ปลากระป๋องและผัดไข่: เทปลากระป๋องพร้อมซอสลงในกระทะ ใช้ตะหลิวบดปลาชิ้นใหญ่ให้แตก จากนั้นดันส่วนผสมทั้งหมดไปด้านข้างของกระทะ ตอกไข่ไก่ลงไป ตีให้แตกแล้วผัดจนสุก
- ใส่ข้าวและแครอท: ใส่ข้าวสวยและแครอทลงไปในกระทะ คลุกเคล้าให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส น้ำตาลทราย และพริกไทย ผัดจนส่วนผสมเข้ากันดี
- จัดจานและเสิร์ฟ: ตักข้าวผัดใส่จาน โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย เสิร์ฟพร้อมมะนาวและพริกขี้หนูถ้าต้องการเพิ่มรสชาติ
ข้าวผัดไข่
ข้าวผัดไข่เป็นเมนูที่หลายคนรู้จักและคุ้นเคย ด้วยวิธีการทำที่ง่ายและวัตถุดิบที่มีอยู่ในครัวทุกบ้าน นอกจากจะเป็นอาหารที่ทำได้รวดเร็วแล้ว ยังให้พลังงานและคุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสมสำหรับมื้ออาหารด่วน
ส่วนผสมข้าวผัดไข่
- ข้าวสวย 2 ถ้วย (ควรใช้ข้าวเย็นเพื่อไม่ให้ข้าวแฉะ)
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- กระเทียมสับ 2 กลีบ
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
- พริกไทยป่น (ตามชอบ)
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- ต้นหอมซอยสำหรับโรยหน้า
- ผักชีสำหรับตกแต่ง (ไม่บังคับ)
วิธีทำข้าวผัดไข่
- เตรียมวัตถุดิบ: นำข้าวสวยพักไว้ให้เย็น เตรียมไข่ไก่และกระเทียมสับละเอียด
- ผัดกระเทียม: ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช ใช้ไฟกลาง ใส่กระเทียมสับลงไปผัดจนมีกลิ่นหอม
- ผัดไข่: ตอกไข่ไก่ลงในกระทะ ตีให้แตกและผัดจนไข่เริ่มสุก
- ใส่ข้าวและปรุงรส: ใส่ข้าวสวยลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากับไข่ ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย และพริกไทย ผัดจนส่วนผสมเข้ากันดี
- ตกแต่งและเสิร์ฟ: ตักข้าวผัดไข่ใส่จาน โรยหน้าด้วยต้นหอมซอยและผักชี เสิร์ฟร้อนๆ พร้อมเครื่องเคียงตามชอบ
ยำปลากระป๋อง
ยำปลากระป๋องเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ได้รับความนิยมในหมู่คนรักอาหารไทย ด้วยความง่ายในการเตรียมและรสชาติที่จัดจ้าน ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมื้ออาหารด่วนแต่ยังคงความอร่อยครบถ้วน เมนูนี้ไม่เพียงแค่ใช้เวลาน้อย แต่ยังสามารถปรับเปลี่ยนรสชาติให้เข้ากับความชอบของแต่ละคนได้อีกด้วย
ส่วนผสมยำปลากระป๋อง
- ปลากระป๋องในซอสมะเขือเทศ 1 กระป๋อง (เลือกยี่ห้อตามชอบ)
- หอมแดงซอยบาง 2-3 หัว
- พริกขี้หนูซอย 5-7 เม็ด (ปรับตามความเผ็ดที่ต้องการ)
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
- มะเขือเทศหั่นเต๋า 1 ลูก
- ต้นหอมซอย 2 ต้น
- ผักชีสำหรับโรยหน้า (ตามชอบ)
- ผักสด เช่น แตงกวา ผักกาดขาว สำหรับจัดจาน
วิธีทำยำปลากระป๋อง
- เตรียมวัตถุดิบ: เปิดปลากระป๋องและเตรียมหั่นหอมแดง มะเขือเทศ ต้นหอม และซอยพริกขี้หนูให้เรียบร้อย
- ปรุงน้ำยำ: ผสมพริกขี้หนู น้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลทรายในชามผสม คนจนน้ำตาลละลายและชิมรสชาติให้ได้รสเปรี้ยว เค็ม เผ็ดตามชอบ
- ผสมยำ: ใส่ปลากระป๋องพร้อมซอสมะเขือเทศลงในชามผสม ตามด้วยหอมแดง มะเขือเทศ และต้นหอม คลุกเคล้าให้เข้ากัน
- จัดจาน: ตักยำปลากระป๋องใส่จาน โรยหน้าด้วยผักชีและจัดเสิร์ฟพร้อมผักสด เช่น แตงกวาและผักกาดขาว
ผัดถั่วงอกเต้าหู้ไข่หมูสับ
ผัดถั่วงอกเต้าหู้ไข่หมูสับเป็นเมนูที่ทั้งประหยัดและทำง่าย เหมาะสำหรับมื้อเร่งด่วนหรือวันที่อยากได้อาหารจานเดียวที่ครบทั้งโปรตีน ไฟเบอร์ และรสชาติที่ลงตัว ความพิเศษของจานนี้คือการนำเต้าหู้ไข่มาผสมผสานกับถั่วงอกที่กรอบอร่อย และหมูสับที่ให้ความหอมมัน เพิ่มรสชาติด้วยเครื่องปรุงที่หาได้ง่ายในครัวไทย
ส่วนผสมผัดถั่วงอกเต้าหู้ไข่หมูสับ
- ถั่วงอกสด 300 กรัม
- เต้าหู้ไข่ 2 หลอด (หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ)
- หมูสับ 150 กรัม
- กระเทียมสับ 2 กลีบ
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
- พริกไทยป่น (ตามชอบ)
- ต้นหอมซอยสำหรับโรยหน้า
- พริกขี้หนูและมะนาวสำหรับเสิร์ฟคู่ (ไม่บังคับ)
วิธีทำผัดถั่วงอกเต้าหู้ไข่หมูสับ
- เตรียมวัตถุดิบ: ล้างถั่วงอกให้สะอาดและพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ หั่นเต้าหู้ไข่เป็นชิ้นเล็กๆ เตรียมหมูสับและกระเทียมสับ
- ผัดกระเทียมและหมูสับ: ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช ใช้ไฟกลาง ใส่กระเทียมสับลงไปผัดจนมีกลิ่นหอม จากนั้นใส่หมูสับลงไปผัดจนสุก
- ใส่เต้าหู้ไข่และถั่วงอก: ใส่เต้าหู้ไข่ลงไปในกระทะ ใช้ตะหลิวพลิกเบาๆ เพื่อไม่ให้เต้าหู้แตก ใส่ถั่วงอกตามลงไปและผัดให้เข้ากัน
- ปรุงรสชาติ: เติมซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม และน้ำตาลทราย คลุกเคล้าให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี โรยพริกไทยป่นและต้นหอมซอย
- จัดจานและเสิร์ฟ: ตักใส่จาน เสิร์ฟพร้อมพริกขี้หนูและมะนาวเพื่อเพิ่มรสชาติ หรือรับประทานได้ทันที
ผัดไวไว
ผัดไวไวเป็นอีกหนึ่งเมนูยอดนิยมที่ใครหลายคนชื่นชอบ ด้วยวิธีทำที่ง่ายและใช้เวลาไม่นาน จึงเหมาะกับชีวิตประจำวันของคนที่ต้องการอาหารที่อร่อยและประหยัดเวลา วัตถุดิบที่ใช้ยังหาได้ง่ายจากครัวทั่วไป ทำให้ผัดไวไวเป็นเมนูที่ใครก็ทำได้
ส่วนผสมผัดไวไว
- บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไวไว 1 ซอง (รสตามชอบ)
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- กระเทียมสับ 1 ช้อนชา
- แครอทหั่นเต๋าเล็ก 2 ช้อนโต๊ะ
- กะหล่ำปลีหั่นฝอย 1/2 ถ้วย
- ซอสปรุงรส 1 ช้อนชา
- น้ำมันหอย 1 ช้อนชา
- น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยป่น (ตามชอบ)
- ต้นหอมซอยสำหรับโรยหน้า
วิธีทำผัดไวไว
- เตรียมวัตถุดิบ: ต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในน้ำเดือดประมาณ 2 นาทีหรือจนเส้นนุ่ม จากนั้นสะเด็ดน้ำและพักไว้
- ผัดกระเทียม: ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช ใช้ไฟกลาง ใส่กระเทียมสับลงไปผัดจนมีกลิ่นหอม
- เพิ่มผักและไข่: ใส่แครอทและกะหล่ำปลีลงไปผัดจนสุก ดันส่วนผสมทั้งหมดไปด้านข้างของกระทะ แล้วตอกไข่ไก่ลงไป ใช้ตะหลิวตีให้แตกและผัดจนสุก
- ใส่บะหมี่และปรุงรส: ใส่เส้นบะหมี่ที่เตรียมไว้ลงไปในกระทะ ปรุงรสด้วยซอสปรุงรสและน้ำมันหอย ผัดจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี
- จัดจานและเสิร์ฟ: ตักใส่จาน โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย และพริกไทยป่น พร้อมเสิร์ฟทันที
คั่วแห้งไข่
คั่วแห้งไข่เป็นเมนูที่หลายคนชื่นชอบเพราะความง่ายและความอร่อยที่ได้จากส่วนผสมที่ไม่ซับซ้อน เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาเตรียมอาหารน้อย หรือมองหามื้ออาหารที่ประหยัดแต่ยังคงรสชาติกลมกล่อม ด้วยวัตถุดิบหลักอย่างไข่ไก่และเครื่องปรุงรสที่ทุกบ้านมักมีติดครัวอยู่แล้ว คุณสามารถทำเมนูนี้ได้ง่ายๆ ในเวลาอันสั้น
ส่วนผสมคั่วแห้งไข่
- ไข่ไก่ 3 ฟอง
- กระเทียมสับ 2 กลีบ
- น้ำปลา 1 ช้อนชา
- ซอสหอยนางรม 1 ช้อนชา
- พริกไทยป่น (ตามชอบ)
- น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
- ต้นหอมซอยสำหรับโรยหน้า
วิธีทำคั่วแห้งไข่
- เตรียมวัตถุดิบ: ตอกไข่ไก่ใส่ชาม ตีไข่ให้เข้ากัน เตรียมกระเทียมสับและต้นหอมซอย
- ผัดกระเทียม: ตั้งกระทะบนไฟกลาง ใส่น้ำมันพืช รอให้น้ำมันร้อน จากนั้นใส่กระเทียมสับลงไปผัดจนมีกลิ่นหอม
- ใส่ไข่ลงกระทะ: เทไข่ที่ตีไว้ลงกระทะ ทิ้งไว้สักครู่ให้ไข่เริ่มเซ็ตตัว
- ปรุงรสและคั่วแห้ง: ใช้ตะหลิวค่อยๆ คั่วไข่ให้กระจายตัว ปรุงรสด้วยน้ำปลา ซอสหอยนางรม และพริกไทย ผัดให้เข้ากันจนไข่แห้งและมีกลิ่นหอม
- จัดจานและเสิร์ฟ: ตักไข่ใส่จาน โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย พร้อมเสิร์ฟ
ยำกุนเชียง
ยำกุนเชียงเป็นหนึ่งในเมนูอาหารไทยที่หลายคนโปรดปราน ด้วยรสชาติที่กลมกล่อมจากการผสมผสานของรสเปรี้ยว หวาน เค็ม และเผ็ด จนได้เมนูที่ทั้งอร่อยและมีเอกลักษณ์พิเศษ ยำกุนเชียงไม่เพียงแต่เป็นอาหารที่เหมาะสำหรับมื้อเย็นเบาๆ แต่ยังเป็นเมนูที่เหมาะสำหรับปาร์ตี้หรืองานเลี้ยงต่างๆ เนื่องจากทำง่ายและใช้เวลาไม่นาน
ส่วนผสมยำกุนเชียง
- กุนเชียงหั่นแว่นบาง 150 กรัม
- หอมแดงซอย 3 หัว
- พริกขี้หนูซอย 5-7 เม็ด (ปรับตามความเผ็ดที่ชอบ)
- มะนาว 2 ลูก (คั้นน้ำ)
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- ผักชีซอย 2 ช้อนโต๊ะ
- แตงกวาหั่นบาง (สำหรับตกแต่งและเสิร์ฟคู่)
- ถั่วลิสงคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ (ไม่บังคับ)
วิธีทำยำกุนเชียง
- เตรียมกุนเชียง: ตั้งกระทะบนไฟกลาง นำกุนเชียงลงไปทอดโดยไม่ใช้น้ำมัน (กุนเชียงจะปล่อยน้ำมันออกมาเอง) จนเหลืองกรอบเล็กน้อย จากนั้นตักขึ้นพักไว้บนกระดาษซับมัน
- ผสมน้ำยำ: ในชามผสม ใส่น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลทราย และพริกขี้หนูซอย คนให้ส่วนผสมเข้ากันจนน้ำตาลละลาย
- รวมส่วนผสม: ใส่กุนเชียงทอด หอมแดงซอย และถั่วลิสงลงในชามผสมน้ำยำ คลุกเคล้าให้เข้ากัน
- จัดจาน: ตักยำกุนเชียงใส่จาน โรยหน้าด้วยผักชีซอย เสิร์ฟพร้อมแตงกวาหั่นบางเพื่อเพิ่มความสดชื่น
ผัดคะน้าน้ำมันหอย
ผัดคะน้าน้ำมันหอยเป็นหนึ่งในเมนูที่หลายคนคุ้นเคยและนิยมทำกันมาก ด้วยความง่ายของวิธีทำและรสชาติที่ลงตัว เป็นเมนูที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามชอบ เช่น เพิ่มเนื้อสัตว์หรือเห็ดเพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ ไม่ว่าจะเป็นมื้อเร่งด่วนหรือมื้อสบายๆ ผัดคะน้าน้ำมันหอยก็ตอบโจทย์ได้เสมอ
ส่วนผสมผัดคะน้าน้ำมันหอย
- คะน้าสด 200 กรัม (เลือกยอดอ่อนและใบอ่อน)
- กระเทียมสับ 2 กลีบ
- น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
- น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
- พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเฉียง (สำหรับตกแต่ง)
วิธีทำผัดคะน้าน้ำมันหอย
- เตรียมวัตถุดิบ: ล้างคะน้าให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ จากนั้นเตรียมกระเทียมสับและส่วนผสมทั้งหมดไว้ใกล้มือ
- ผัดกระเทียม: ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช ใช้ไฟกลาง ใส่กระเทียมลงไปผัดจนหอม
- ใส่คะน้าและปรุงรส: ใส่คะน้าลงในกระทะ ผัดให้เข้ากัน แล้วเติมน้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว และน้ำตาลทราย ผัดต่อจนคะน้าสุก
- เติมน้ำ: เติมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อยเพื่อให้คะน้าชุ่มฉ่ำและไม่แห้งเกินไป ผัดต่ออีกประมาณ 1 นาที
- จัดจาน: ตักใส่จาน ตกแต่งด้วยพริกชี้ฟ้าแดง และพร้อมเสิร์ฟ
ผัดเปรี้ยวหวานหมู
ผัดเปรี้ยวหวานหมูเป็นหนึ่งในเมนูที่ได้รับความนิยมในครัวไทย ด้วยรสชาติที่ลงตัวระหว่างเปรี้ยวและหวาน วัตถุดิบที่หาได้ง่าย และขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก ทำให้จานนี้กลายเป็นเมนูโปรดของหลายคน
ส่วนผสมผัดเปรี้ยวหวานหมู
- เนื้อหมูหั่นชิ้นพอดีคำ 300 กรัม
- สับปะรดหั่นชิ้น 1 ถ้วย
- หอมใหญ่หั่นเสี้ยว 1 หัว
- มะเขือเทศหั่นเสี้ยว 2 ลูก
- แตงกวาหั่นชิ้น 1 ถ้วย
- พริกหยวกหั่นชิ้น 1/2 ถ้วย
- กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- ซอสมะเขือเทศ 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ
- ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยป่นเล็กน้อย
วิธีทำผัดเปรี้ยวหวานหมู
- เตรียมวัตถุดิบ: ล้างและหั่นส่วนผสมทั้งหมดให้เรียบร้อย เตรียมกระทะและเครื่องปรุง
- ผัดหมู: ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช ใช้ไฟกลาง ใส่กระเทียมสับลงไปผัดจนมีกลิ่นหอม จากนั้นใส่เนื้อหมูลงไป ผัดจนสุกและเปลี่ยนเป็นสีขาว
- ใส่ผักและปรุงรส: ใส่หอมใหญ่ พริกหยวก แตงกวา และสับปะรด ผัดให้เข้ากัน จากนั้นเติมซอสมะเขือเทศ น้ำตาลทราย น้ำส้มสายชู และซอสปรุงรส คลุกเคล้าให้เข้ากัน
- เพิ่มมะเขือเทศ: ใส่มะเขือเทศหั่นเสี้ยวลงไป ผัดเบาๆ เพื่อไม่ให้มะเขือเทศเละ โรยพริกไทยป่นเล็กน้อย ชิมรสและปรับตามชอบ
- เสิร์ฟ: ตักผัดเปรี้ยวหวานหมูใส่จาน พร้อมเสิร์ฟร้อนๆ กับข้าวสวย
ผัดผักรวม
ผัดผักรวมเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะในร้านอาหารหรือในครัวเรือน เพราะนอกจากจะทำง่ายและใช้เวลาไม่นาน ยังเต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการจากผักหลากหลายชนิด เหมาะสำหรับทุกคนที่ใส่ใจสุขภาพและต้องการอาหารที่เบาและอร่อยในเวลาเดียวกัน
ส่วนผสมผัดผักรวม
- ผักรวมตามชอบ (เช่น บรอกโคลี, แครอท, กะหล่ำปลี, เห็ด) 3 ถ้วย
- กระเทียมสับ 2 กลีบ
- ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
- น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยป่น (ตามชอบ)
วิธีทำผัดผักรวม
- เตรียมผัก: ล้างผักให้สะอาดและหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ เช่น บรอกโคลีแบ่งเป็นช่อเล็กๆ แครอทหั่นเฉียงบาง กะหล่ำปลีฉีกเป็นชิ้นพอดี
- ผัดกระเทียม: ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมันพืชลงไป ใช้ไฟกลาง ใส่กระเทียมสับลงไปผัดจนหอม
- ใส่ผัก: ใส่ผักที่เตรียมไว้ลงในกระทะ ผัดให้เข้ากันประมาณ 2 นาที
- ปรุงรส: เติมซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย และน้ำเปล่าลงไป ผัดต่ออีก 2-3 นาทีจนผักสุกและซอสเคลือบทั่วถึง
- โรยพริกไทย: ปิดไฟ โรยพริกไทยตามชอบ ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
ผัดมะเขือยาวหมูสับ
ผัดมะเขือยาวหมูสับเป็นอีกหนึ่งเมนูยอดนิยมในครัวไทย ด้วยรสชาติกลมกล่อมของหมูสับที่ผัดเข้ากับมะเขือยาวที่นุ่มละมุน ทำให้จานนี้เป็นที่ชื่นชอบของคนทุกเพศทุกวัย การทำผัดมะเขือยาวหมูสับไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด เพียงแค่มีวัตถุดิบพื้นฐานและขั้นตอนการทำที่ไม่ซับซ้อน คุณก็สามารถสร้างสรรค์เมนูนี้ได้เองที่บ้าน
ส่วนผสมผัดมะเขือยาวหมูสับ
- มะเขือยาว 2 ลูก (หั่นเฉียง)
- หมูสับ 150 กรัม
- กระเทียมสับ 2 กลีบ
- พริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นแฉลบ 1 เม็ด
- ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
- ใบโหระพา 1/4 ถ้วย (สำหรับโรยหน้า)
วิธีทำผัดมะเขือยาวหมูสับ
- เตรียมวัตถุดิบ: หั่นมะเขือยาวเฉียง ๆ แล้วแช่น้ำเกลือไว้สักครู่เพื่อไม่ให้ดำ เตรียมหมูสับ กระเทียม และพริกชี้ฟ้า
- ผัดกระเทียมและหมูสับ: ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช ใช้ไฟกลาง ใส่กระเทียมลงไปผัดจนหอม จากนั้นใส่หมูสับลงไปผัดจนสุก
- ใส่มะเขือยาวและปรุงรส: ใส่มะเขือยาวลงไปผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน เติมน้ำเปล่าเล็กน้อยเพื่อช่วยให้มะเขือยาวนุ่ม ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว และน้ำตาลทราย
- เพิ่มพริกชี้ฟ้าและใบโหระพา: ใส่พริกชี้ฟ้าหั่นแฉลบลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน ปิดไฟแล้วโรยใบโหระพาลงไปเพื่อเพิ่มความหอม
- เสิร์ฟ: ตักใส่จาน เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ เพื่อความอร่อยเต็มที่
ไข่ลูกเขย
ไข่ลูกเขยเป็นเมนูไทยที่หลายคนคุ้นเคย ด้วยความเปรี้ยวหวานของน้ำซอสและความกรอบนอกนุ่มในของไข่ต้มทอด ทำให้จานนี้เป็นที่ชื่นชอบของทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะทำทานในครอบครัวหรือใช้เป็นเมนูต้อนรับแขก สูตรนี้สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยวัตถุดิบที่หาได้ทั่วไปในครัว
ส่วนผสมไข่ลูกเขย
- ไข่ไก่ต้มสุก 4 ฟอง
- น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
- หอมแดงซอยบาง 1/4 ถ้วย
- กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช (สำหรับทอดและผัด)
- พริกแห้งทอด 2-3 เม็ด (สำหรับตกแต่ง)
- ผักชีสำหรับโรยหน้า
วิธีทำไข่ลูกเขย
- ต้มและทอดไข่: นำไข่ไก่ต้มสุกมาปอกเปลือกให้สะอาด จากนั้นตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช ใช้ไฟกลาง ทอดไข่จนผิวด้านนอกเหลืองกรอบ นำขึ้นพักไว้
- เจียวหอมแดง: ใช้น้ำมันในกระทะเดิม ลดไฟลงเป็นไฟอ่อน ใส่หอมแดงซอยลงไปเจียวจนเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักไว้
- ทำน้ำซอส: ตั้งกระทะใหม่ ใส่กระเทียมสับผัดกับน้ำมันเล็กน้อยจนหอม เติมน้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา และน้ำเปล่า ผัดให้เข้ากันจนเดือดและซอสข้น
- ประกอบจาน: ใส่ไข่ทอดลงไปในกระทะ คลุกเคล้ากับน้ำซอสให้ซอสเคลือบทั่วไข่ จากนั้นตักใส่จาน
- ตกแต่งและเสิร์ฟ: โรยหน้าด้วยหอมเจียว ผักชี และพริกแห้งทอด เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ
ฟักทองผัดไข่
ฟักทองผัดไข่เป็นเมนูอาหารที่ได้รับความนิยมในครัวไทยมาอย่างยาวนาน ด้วยความเรียบง่ายในการทำและคุณค่าทางโภชนาการสูง ฟักทองซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในเมนูนี้ อุดมไปด้วยวิตามินเอและไฟเบอร์ ช่วยเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง ขณะที่ไข่ไก่ช่วยเพิ่มโปรตีนและรสชาติที่กลมกล่อม
ส่วนผสมฟักทองผัดไข่
- ฟักทองหั่นชิ้นพอดีคำ 300 กรัม
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- กระเทียมสับ 2 กลีบ
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
- น้ำปลา 1 ช้อนชา (ถ้าชอบรสเค็ม)
- น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
- ต้นหอมซอยสำหรับโรยหน้า
วิธีทำฟักทองผัดไข่
- เตรียมวัตถุดิบ: ล้างฟักทองให้สะอาด ปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ สับกระเทียมให้ละเอียด และเตรียมไข่ไก่
- ผัดกระเทียม: ตั้งกระทะบนไฟกลาง ใส่น้ำมันพืชลงไป รอให้น้ำมันร้อนแล้วใส่กระเทียมสับลงไป ผัดจนมีกลิ่นหอม
- ผัดฟักทอง: ใส่ฟักทองที่เตรียมไว้ลงในกระทะ ผัดให้เข้ากับกระเทียม เติมน้ำเปล่าเล็กน้อยเพื่อช่วยให้ฟักทองนุ่มขึ้น ปิดฝากระทะไว้ประมาณ 5 นาที
- เติมไข่ไก่: เปิดฝากระทะ ใช้ตะหลิวดันฟักทองไปด้านข้างของกระทะ ตอกไข่ไก่ลงไปในส่วนที่ว่าง ตีไข่ให้แตกแล้วผัดให้เข้ากันกับฟักทอง
- ปรุงรส: ใส่ซอสปรุงรส น้ำปลา และน้ำตาลทรายลงไป ผัดให้ส่วนผสมเข้ากันดี
- เสิร์ฟ: ตักฟักทองผัดไข่ใส่จาน โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย พร้อมเสิร์ฟทันที
แตงกวาผัดไข่
แตงกวาผัดไข่เป็นหนึ่งในเมนูพื้นฐานที่หลายคนคุ้นเคย ด้วยความง่ายของขั้นตอนการทำและวัตถุดิบที่หาได้ง่ายจากครัว ทำให้เมนูนี้เป็นที่นิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในมื้อเร่งด่วนที่คุณต้องการอาหารที่ทั้งรวดเร็วและมีคุณค่าทางโภชนาการ
ส่วนผสมแตงกวาผัดไข่
- แตงกวา 2 ลูก (หั่นเฉียงหรือหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ)
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- กระเทียมสับ 1 ช้อนชา
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- ซอสปรุงรส 1 ช้อนชา
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
- พริกไทยป่น (ตามชอบ)
วิธีทำแตงกวาผัดไข่
- เตรียมวัตถุดิบ: หั่นแตงกวาเป็นชิ้นพอดีคำ และตอกไข่ใส่ชามเตรียมไว้
- ผัดกระเทียม: ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช ใช้ไฟกลาง ใส่กระเทียมสับลงไปผัดจนมีกลิ่นหอม
- ใส่แตงกวา: ใส่แตงกวาลงในกระทะ ผัดจนเริ่มสุกเล็กน้อย
- ผัดไข่: ดันแตงกวาไปด้านข้างของกระทะ ตอกไข่ลงไป ใช้ตะหลิวคนให้ไข่แตกและสุก
- ปรุงรส: คลุกเคล้าแตงกวาและไข่ให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส ซีอิ๊วขาว และน้ำตาลทราย ผัดต่อจนส่วนผสมเข้ากันดี
- ตักเสิร์ฟ: ตักใส่จาน โรยพริกไทยป่นเพิ่มความหอม พร้อมเสิร์ฟทันที
แหนมผัดไข่
แหนมผัดไข่เป็นเมนูที่หลายคนคุ้นเคยและมักจะนึกถึงเวลาต้องการอาหารที่ทำง่ายและอร่อยในเวลาเดียวกัน ด้วยความลงตัวของรสชาติเปรี้ยวจากแหนมและความหอมจากไข่ จึงทำให้เมนูนี้กลายเป็นจานโปรดในใจใครหลายคน
ส่วนผสมแหนมผัดไข่
- แหนมหั่นชิ้นเล็ก 150 กรัม
- ไข่ไก่ 3 ฟอง
- กระเทียมสับ 2 กลีบ
- หอมหัวใหญ่ซอย 1/2 หัว
- พริกสดซอย 2 เม็ด (ไม่บังคับ)
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
- ต้นหอมซอยสำหรับโรยหน้า
วิธีทำแหนมผัดไข่
- เตรียมวัตถุดิบ: หั่นแหนมเป็นชิ้นเล็ก ซอยหอมหัวใหญ่ กระเทียม และพริกสด เตรียมไข่ไก่ตีพอแตกพักไว้
- ตั้งกระทะ: ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ ใช้ไฟกลาง ใส่กระเทียมลงไปผัดจนมีกลิ่นหอม
- ผัดแหนม: ใส่แหนมลงในกระทะ ผัดจนแหนมเริ่มสุกและหอม เติมหอมหัวใหญ่และพริกสดลงไป ผัดต่อจนส่วนผสมเข้ากันดี
- ใส่ไข่: เทไข่ที่เตรียมไว้ลงในกระทะ ใช้ตะหลิวคนเบาๆ ให้ไข่กระจายตัว ปรุงรสด้วยซอสปรุงรสและน้ำตาล ผัดจนไข่สุกและคลุกเคล้ากับแหนมอย่างดี
- จัดจาน: ตักแหนมผัดไข่ใส่จาน โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ หรือจะรับประทานเดี่ยวๆ ก็อร่อย
น้ำพริกกะปิ
น้ำพริกกะปิเป็นหนึ่งในอาหารไทยที่หลายคนคุ้นเคยและชื่นชอบ ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และเข้มข้น มักจะเสิร์ฟพร้อมผักสดหรือผักลวก เป็นเมนูที่ช่วยเพิ่มความอยากอาหารและเข้ากันได้ดีกับข้าวสวยร้อนๆ
ส่วนผสมน้ำพริกกะปิ
- กะปิ 2 ช้อนโต๊ะ (เลือกกะปิคุณภาพดี)
- พริกขี้หนูสวน 10 เม็ด (สามารถเพิ่มหรือลดได้ตามความชอบ)
- กระเทียมไทย 5 กลีบ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1 ช้อนชา
- มะเขือพวง 2 ช้อนโต๊ะ (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
- น้ำต้มสุก 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำน้ำพริกกะปิ
- โขลกส่วนผสมหลัก: ใส่พริกขี้หนูสวนและกระเทียมลงในครก โขลกให้ละเอียด จากนั้นใส่กะปิและน้ำตาลปี๊บลงไป โขลกจนส่วนผสมเข้ากันดี
- ปรุงรสชาติ: เติมน้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำต้มสุกลงไป ใช้สากคนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี หากชอบรสเผ็ดสามารถเพิ่มพริกขี้หนูสวนได้
- ใส่มะเขือพวง: หากต้องการเพิ่มเนื้อสัมผัส ใส่มะเขือพวงแล้วโขลกเบาๆ เพื่อให้เข้ากับน้ำพริก
- จัดเสิร์ฟ: ตักน้ำพริกใส่ถ้วย เสิร์ฟพร้อมผักสด เช่น แตงกวา ถั่วฝักยาว หรือผักลวก เช่น บวบ ฟักทอง และมะเขือยาว
แกงจืดเต้าหู้หมูสับ
แกงจืดเต้าหู้หมูสับเป็นเมนูที่อยู่ในใจคนไทยหลายคน เพราะทำง่าย ใช้วัตถุดิบพื้นฐาน และเหมาะสำหรับทุกมื้ออาหาร ไม่ว่าจะเป็นมื้อเช้า กลางวัน หรือเย็น รสชาติกลมกล่อมของซุปที่เคี่ยวอย่างพิถีพิถัน ผสมผสานกับความนุ่มของเต้าหู้และรสสัมผัสที่ลงตัวของหมูสับ ทำให้เมนูนี้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย
ส่วนผสมแกงจืดเต้าหู้หมูสับ
- หมูสับ 200 กรัม
- เต้าหู้อ่อน 2 ก้อน (หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ)
- แครอท 1 หัว (หั่นเป็นแว่น)
- หัวไชเท้า 1/2 หัว (หั่นเป็นแว่น)
- ผักกาดขาว 2 ถ้วย (หั่นชิ้นพอดี)
- ขึ้นฉ่าย 2 ต้น (หั่นท่อน)
- กระเทียมสับ 1 ช้อนชา
- น้ำเปล่า 6 ถ้วย
- ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
- พริกไทยป่น (ตามชอบ)
- น้ำมันพืช 1 ช้อนชา
วิธีทำแกงจืดเต้าหู้หมูสับ
- ตั้งน้ำซุป: ตั้งหม้อน้ำเปล่าบนไฟกลางจนเดือด ใส่หัวไชเท้าและแครอทลงไป ต้มจนเริ่มนิ่มเพื่อเพิ่มความหวานให้กับน้ำซุป
- เตรียมหมูสับ: นำหมูสับมาปรุงด้วยซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ คลุกเคล้าให้เข้ากัน พักไว้
- ผัดกระเทียม: ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช ผัดกระเทียมจนหอม จากนั้นใส่หมูสับลงไป ผัดจนหมูสุก
- รวมส่วนผสม: เทหมูที่ผัดไว้ลงในหม้อน้ำซุปที่เดือด ใส่เต้าหู้อ่อนและผักกาดขาว ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรสที่เหลือ และเกลือ
- เคี่ยวจนผักนิ่ม: ลดไฟลงเป็นไฟอ่อน เคี่ยวต่ออีก 10 นาที ใส่ขึ้นฉ่ายและพริกไทยป่น ปิดไฟ
- เสิร์ฟ: ตักแกงจืดเต้าหู้หมูสับใส่ชาม เสิร์ฟร้อนๆ พร้อมข้าวสวย
ต้มผักกาดดองซี่โครงหมู
ต้มผักกาดดองซี่โครงหมูเป็นเมนูที่คุ้นเคยในหลายครัวเรือน ด้วยรสชาติเปรี้ยวเค็มหวานที่ลงตัวและกลิ่นหอมของผักกาดดองที่ผสมผสานกับซี่โครงหมู เมนูนี้เหมาะสำหรับวันที่ต้องการอาหารที่ช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย ทั้งยังทำได้ง่ายด้วยวัตถุดิบไม่กี่ชนิด
ส่วนผสมต้มผักกาดดองซี่โครงหมู
- ซี่โครงหมูหั่นชิ้น 500 กรัม
- ผักกาดดองล้างน้ำแล้วหั่น 300 กรัม
- กระเทียมบุบ 3 กลีบ
- พริกไทยเม็ดบุบ 1 ช้อนชา
- รากผักชีบุบ 2 ราก
- น้ำเปล่า 1.5 ลิตร
- ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- ต้นหอมซอยสำหรับโรยหน้า
วิธีทำต้มผักกาดดองซี่โครงหมู
- เตรียมซี่โครงหมู: ล้างซี่โครงหมูให้สะอาด จากนั้นนำไปลวกในน้ำเดือดประมาณ 2-3 นาทีเพื่อขจัดสิ่งสกปรกและกลิ่นคาว ตักขึ้นพักไว้
- ต้มน้ำซุป: ตั้งหม้อใส่น้ำเปล่า ใช้ไฟกลาง ใส่กระเทียม พริกไทย และรากผักชีบุบลงไป รอจนน้ำเดือด
- ใส่ซี่โครงหมู: ใส่ซี่โครงหมูที่ลวกแล้วลงในหม้อ ต้มด้วยไฟกลางค่อนอ่อนประมาณ 20 นาทีจนซี่โครงหมูนุ่ม
- ใส่ผักกาดดอง: ใส่ผักกาดดองที่เตรียมไว้ลงไป ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย และเกลือ คนให้เข้ากัน ต้มต่ออีก 15-20 นาทีจนผักกาดดองเปื่อยและน้ำซุปซึมเข้าเนื้อหมู
- จัดจานและเสิร์ฟ: ตักต้มผักกาดดองซี่โครงหมูใส่ชาม โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย เสิร์ฟร้อนๆ พร้อมข้าวสวย
ไข่พะโล้
ไข่พะโล้เป็นหนึ่งในเมนูอาหารไทยที่ครองใจคนทุกเพศทุกวัย ด้วยรสชาติที่หอมหวานของน้ำซุปที่เข้มข้นจากเครื่องเทศและสมุนไพร เมนูนี้ไม่เพียงแต่อร่อย แต่ยังมีคุณค่าทางโภชนาการที่ดีจากไข่และเนื้อสัตว์ เหมาะสำหรับมื้ออาหารในทุกโอกาส
ส่วนผสมไข่พะโล้
- ไข่ไก่ต้มปอกเปลือก 6 ฟอง
- หมูสามชั้นหั่นชิ้น 200 กรัม
- เต้าหู้ขาวหั่นชิ้น 2 แผ่น (ไม่บังคับ)
- กระเทียมบุบ 4-5 กลีบ
- รากผักชีบุบ 3 ราก
- พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา
- ซอสพะโล้สำเร็จรูป 2 ช้อนโต๊ะ (หรือผงพะโล้ 1 ช้อนโต๊ะ)
- น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนชา (เพื่อเพิ่มสี)
- น้ำเปล่า 1 ลิตร
วิธีทำไข่พะโล้
- เตรียมวัตถุดิบ: ต้มไข่ไก่ ปอกเปลือก และเตรียมหมูสามชั้นหั่นชิ้นขนาดพอดีคำ ถ้าต้องการเต้าหู้ ให้นำไปทอดจนเหลืองก่อน
- ทำน้ำพะโล้: ตั้งกระทะ ใช้ไฟกลาง ใส่น้ำตาลปี๊บลงไปเคี่ยวจนละลายและเริ่มเป็นคาราเมล เติมกระเทียม รากผักชี และพริกไทยเม็ด ผัดจนมีกลิ่นหอม
- ปรุงน้ำซุป: ใส่ซอสพะโล้ ซีอิ๊วขาว และซีอิ๊วดำลงไปในกระทะ คนให้เข้ากัน แล้วเติมน้ำเปล่า รอจนเดือด
- ใส่วัตถุดิบหลัก: ใส่ไข่ต้ม หมูสามชั้น และเต้าหู้ลงในหม้อ ปิดฝา เคี่ยวด้วยไฟอ่อนประมาณ 20-30 นาที เพื่อให้น้ำซุปซึมเข้าไปในวัตถุดิบ
- จัดเสิร์ฟ: ตักไข่พะโล้ใส่ชาม โรยหน้าด้วยผักชี เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ
การทำอาหารเย็นไม่ใช่แค่เรื่องของการเติมเต็มความอิ่มท้อง แต่ยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยสร้างความสุขและความสัมพันธ์ในครอบครัวอีกด้วย เมนูที่เราแนะนำในบทความนี้ไม่เพียงแค่ง่ายและอร่อย แต่ยังเหมาะกับทุกโอกาสและทุกความชอบ
ลองเลือกเมนูที่คุณสนใจและเริ่มต้นสร้างมื้ออาหารเย็นที่แสนพิเศษของคุณเองได้เลย การทำอาหารเป็นทั้งศิลปะและความรักที่คุณสามารถแบ่งปันกับคนที่คุณรักได้ทุกวัน
เพราะทุกมื้ออาหารเย็นสามารถเป็นช่วงเวลาที่มีค่า การให้ความใส่ใจในส่วนผสมและการปรุงอาหารจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ขอให้คุณเพลิดเพลินกับการทำอาหารและมีมื้อเย็นที่อร่อยและอบอุ่นไปพร้อมกัน!